วันนี้ (6 พฤศจิกายน 2560) นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัดสระบุรี ผู้แทนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดสระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ หัวหน้าคลังสินค้าองค์การคลังสินค้าประจำจังหวัดสระบุรี นำคณะทำงานระดับจังหวัดสระบุรีและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบการขนย้ายข้าวสารเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 1/2560 เพื่อนำมาแปรรูปเป็นอาหารสัตว์ ที่ในสต็อกของรัฐที่โกดังบริษัทพงษ์ลาภ หมู่ 4 ตำบลห้วยป่าหวาย อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เพื่อส่งให้แก่บริษัท เอส พี เอ็ม อาหารสัตว์ จำกัด จ.ราชบุรี
ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว(นบข) ให้เห็นชอบการจำหน่ายข้าวในสต๊อกของรัฐบาลสู่อุตสาหกรรมที่ที่ไม่ใช้การบริโภคของคนครั้งที่1/2560 ซึ่งมีพื้นที่ตั้งของคลังสินค้ากลางเก็บข้าวสารของรัฐที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.สระบุรี จำนวน 7 คลัง(คลังต้นทาง) ปริมาณ 70,287.105 ตัน โดยมีผู้ซื้อที่เป็นผู้ประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล จำนวน 3 ราย ได้แก่ บริษัท.วี.ซี.เอฟ.กรุ๊ป จำกัด จ.ราชบุรี จำนวน 7,623.333 ตัน บจก.นิรันดร์(ประเทศไทย) จ.ระยอง จำนวน 2,857.9411 ตัน และบริษัท เอส พี เอ็ม อาหารสัตว์ จำกัด จ.ราชบุรี จำนวน 59,805.8304 ตัน และในครั้งนี้ได้มีการขนย้ายข้าวสารออกจากคลังสินค้าต้นทางที่โกดังบริษัทพงษ์ลาภ ในคลัง B9 อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ซึ่งเป็นคลังที่เก็บข้าวสารตามโครงการรับจำนำข้าว ปี 2555/2556 ชนิดปลายข้าวขาว A1 เลิศ ปริมาณ 18,392.6218 ตัน เพื่อขนส่งไปยังปลายทางที่จะรับข้าวสารได้แก่บริษัท เอส พี เอ็ม อาหารสัตว์ จำกัด อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการขนย้ายจากโกดังบริษัทพงษ์ลาภไปแล้วจำนวน 22,047.277 ตัน
ทั้งนี้จังหวัดสระบุรีพร้อมคณะกรรมการจังหวัดลงตรวจสอบข้าวสารและการขนย้ายจากต้นทางจนถึงปลายทางเพื่อให้การขนย้ายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนตามนโยบายรัฐบาลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและป้องกันการทุจริต
ดำรงค์ ชื่นจินดา รายงาน/ภาพข่าว
ศูนย์ข่าว ๕ เหล่าทัพ