“วินธัย” กล่าวถึงกรณี “กริชสุดา” ออกมาสัมภาษณ์สื่อนอก ถูกทหารทำร้าย -ย้ำ เป็นไปไม่ได้
จนท.เคารพสิทธิมนุษยชนมาตลอด
วันนี้ (3 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
หรือคสช. กล่าวถึง กรณีการออกมาให้ข้อมูลของ น.ส.กริชสุดาฯ ว่า การดำเนินการต่อ น.ส.กริชสุดา
นั้น เริ่มมาจากต้องสงสัยว่าอาจเกี่ยวพันในคดีทางอาญาหลายคดี จึงเชื่อว่าเจ้าตัวคงมีความกังวลอยู่
พอสมควรถึงผลพวงต่างๆ ที่อาจตามมาได้ ทั้งจากเรื่องคดีความ และจากผู้เสียประโยชน์จากการให้
ข้อมูล ซึ่งไม่เหมือนกับอีกหลายๆ คนที่เคยถูกเชิญมารายงานตัวด้วยเหตุผลที่ต่างจากกรณีนี้
ซึ่งที่ผ่านมาในการสอบสวน น.ส.กริชสุดาฯ มักได้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนท. และข้อมูลที่ได้เป็น
ประโยชน์อย่างมากกับทาง จนท. ถึงขั้นเจ้าตัวรู้สึกและกังวลในเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างมาก
จึงอยากขออยู่เงียบๆ ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนให้มากที่สุด และร้องขอให้ จนท.ช่วยดูแล ซึ่ง
จนท.ก็ได้ดำเนินการให้ตามความเหมาะสม
จนกระทั่งเคยมีข่าวลือว่า เสียชีวิตหลังถูกควบคุมตัว ทาง จนท.จึงจัดให้มีการให้สัมภาษณ์
แสดงตนต่อสาธารณะ สิ่งสังเกตกริยาอาการรอยยิ้มที่แสดงออกมา ก็แสดงให้เห็นชัดว่าเป็น
ไปโดยธรรมชาติปกติ แววตาใบหน้าก็ดูเปล่งปลั่ง ไม่เหมือนเป็นการเสแสร้งในลักษณะที่แสดง
ออกในลักษณะถูกบังคับได้อย่างที่กล่าวอ้าง ยืนยันได้ว่าตลอดระยะเวลา จนท.ให้การดูแลเป็น
อย่างดีไม่เคยปฏิบัติเหมือนเป็นผู้ที่กระทำความผิด หรืออย่างที่มีการกล่าวอ้างอย่างแน่นอน
จึงค่อนข้างแปลกใจกับการมาให้ข้อมูลของคุณกริชสุดาในครั้งนี้ ซึ่ง จนท.ยังมีข้อสงสัยหลาย
ประการ ส่วนหนึ่งเป็นไปได้ที่จะพยายามใช้เงื่อนไขเดิมๆให้มองว่าเป็นการละเมิด เพื่อดึงให้บาง
องค์กรฯที่มีความสนใจเรื่องนี้และเข้ามาสนับสนุน เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของ จนท. โดยการ
ให้ข้อมูลที่บิดเบือนและไม่เป็นความจริง กล่าวอ้างโดยปราศจากหลักฐานข้อพิสูจน์
เป็นไปได้ว่าอาจไม่มั่นใจผลลัพธ์ในทางคดีต่างๆที่อาจตามมา ที่ น.ส.กริชสุดาฯ เข้าไปมีส่วนสนับ
สนุนพัวพันอยู่หลายคดี ถึงแม้ จนท.จะได้ให้คำมั่นไว้แล้ว ด้วยเพราะขณะนี้คดีต่างๆ มีความคืบหน้า
เป็นอย่างมาก โดย น.ส.กริชสุดาฯ คงอาจประเมินดูแล้ว พบความเสี่ยงว่าอาจได้รับผลกระทบใน
ทางคดีแน่นอน หรือไม่ก็ได้รับอันตรายจากผู้เสียผลประโยชน์จากคำให้การต่างๆ ของตนที่ให้ไว้กับ
จนท. ซึ่งเป็นไปได้เมื่อได้กลับไปปรึกษาพบปะกับคนรอบข้างกลุ่มเดิมที่หลบอยู่ในต่างประเทศ
จึงอาจมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
ขอยีนยันว่าการดำเนินการของ จนท. ที่ผ่านมาได้เคารพต่อสิทธิมนุษยชนมาตลอด การปฏิบัติใดๆ
มีหลักการและเหตุผลรองรับทุกประการ การควบคุมดูแลบุคคลหนึ่งบุคคลใด เป็นไปด้วยความสุภาพ
เรียบร้อย และไม่มีเหตุผลที่ทาง จนท.จะต้องไปดำเนินการอะไรที่ขัดต่อความรู้สึกของสังคมอย่างแน่นอน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อน และสถานการณ์ที่สังคมให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้