รองผู้ว่าฯลพบุรี
พร้อมด้วย นายอำเภอเมืองลพบุรี
ลงพื้นที่รณรงค์หยุดเผาในพื้นที่นาส่งเสริมให้ใช้ไถกลบตอซังข้าว และวัสดุเหลือใช้ในไร่นา ผลักดันการเกษตรแบบปลอดการเผา ลดฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่อำเภอเมืองลพบุรี
วันที่ 6 เมษายน 2568 เวลา 17.00 น. นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้มอบหมายให้ นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย
นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี พร้อมพันจ่าเอกสมศักดิ์ ธนันทา ปลัดอำเภอ ฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองลพบุรี
นายกีรติ ต๊ะกำเนิด ปลัดอำเภอฯ และ
นางสาววัลภา ปันต๊ะ เกษตรจังหวัดลพบุรี
กำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯลฯ ตำบลโพธิ์ตรุ และตำบลบ้านข่อยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ รณรงค์หยุดเผาในพื้นที่การเกษตรและรณรงค์ให้ไถกลบตอซังข้าวและวัสดุเหลือใช้ในไร่นา เพื่อสุขภาพที่ดีของคนลพบุรี ในพื้นที่ อำเภอเมืองลพบุรี
รวมถึง ปล่อยแถวชุดเคลื่อนที่เร็วลาดตระเวน 24 ชั่วโมง ในการตรวจตราพื้นที่ทางการเกษตร และไร่นา ในการป้องกันการเผา เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 พร้อมทั้งกำชับแนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการลงพื้นที่ อีกด้วย สำหรับพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังจังหวัดลพบุรี มีทั้งหมดประมาณ 4 แสนไร่ ปัจจุบันมีการปลูกข้าวนาปรังไปแล้วจำนวน 330,146 ไร่ โดยอำเภอที่ปลูกข้าวมากที่สุดคือ อำเภอบ้านหมี่ อำเภอท่าวุ้ง และ อำเภอเมืองลพบุรี โดยจากคาดการณ์ปริมาณฟางข้าว ที่เหลือจากการเก็บเกี่ยวจะมีมากกว่า 102,706 ตัน
ทั้งนี้ จังหวัดลพบุรี จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญจึงได้รณรงค์งดเผาตอซังข้าวและฟางข้าวหลังฤดูเก็บเกี่ยวในการลดฝุ่น PM 2.5 ซึ่งผลเสียจากการเผาทำให้เกิดมลพิษ ส่งผลเสียต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมแล้วยังทําให้พื้นที่เพาะปลูกเสื่อมโทรมเผาผลาญ อินทรีย์วัตถุและธาตุอาหารในดิน ทําลายโครงสร้างดินที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูก พืชลงอยางต่อเนื่องทุกปี
ทั้งนี้จังหวัดลพบุรี ได้จัดชุดลาดตระเวนตรวจ 24 ชั่วโมง เป็นการยกระดับมาตรการป้องกันลักลอบทำการเผาในพื้นที่การเกษตร และไร่นา โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญเพื่อป้องปรามและประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ให้ผู้นำชุมชน สร้างความเข้าใจ ให้แก่เกษตรกรในการงดการเผาในพื้นที่โล่งแจ้งซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาฝุ่นควัน และ PM 2.5 โดยบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วนในพื้นที่ โดยกำหนดจุดเป้าหมายที่สำคัญคือพื้นที่ที่มีประวัติการเผาเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งในขณะเดียวกันถ้าพบการเผาในพื้นที่การเกษตร หรือ ริมทาง ชุดลาดตระเวนนี้ พร้อมที่เข้าระงับการเผาในทันทีเพื่อไม่ให้ลุกลาม นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ ลพบุรี ได้กำชับให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เผาทุกรายโดยไม่มีข้อยกเว้น อีกด้วย
ในข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมสั่งการให้ดำเนินการครอบคลุมในทุกตำบลตลอด 24 ชม. ต่อไป
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ