รัฐบาลประเทศไลบีเรียประกาศปิดโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัส
อีโบลา ที่กำลังระบาดอย่างหนักในแอฟริกาตะวันตก…
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลแห่งประเทศไลบีเรียประกาศปิดโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศ
และออกมาตรการอีกหลายอย่าง เพื่อรับมือการระบาดครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเชื้อไวรัสมรณะ
‘อีโบลา’ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตในแอฟริกาตะวันตกแล้วถึง 672 ราย ตามรายงานขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น)
ประธานาธิบดีเอลเลน จอห์นสัน เซอซ์ลีฟ กล่าวเมื่อวันพุธ (30 ก.ค.) ว่า นอกจากปิดโรงเรียนแล้ว ชุมชนบาง
แห่งจะถูกจัดให้เป็นเขตกักกันโรค และเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่มีตำแหน่งไม่สำคัญจะถูกส่งกลับบ้านเป็นเวลา
20 วัน ขณะที่กองทัพจะส่งกำลังพลไปประจำการตามจุดต่างๆ เพื่อบังคับใช้มาตรการที่ได้ประกาศไป
นอกจากนี้ นางเซอร์ลีฟยังประกาศให้วันที่ 1 ส.ค. เป็นวันหยุด เพื่อทำการฆ่าเชื้อภายในสำนักงาน
รัฐบาลทั้งหมดอีกด้วย
อนึ่ง สถานการณ์การระบาดของไวรัสอีโบลาในประเทศกินี, ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน กำลังรุนแรงจนยาก
ที่จะควบคุม โดยล่าสุด ‘พีซ คอร์ป’ องค์กรเพื่อมนุษยธรรมของสหรัฐอเมริกา เผยว่าพวกเขาได้สั่งให้เจ้าหน้าที่
อาสาสมัครจำนวน 340 คน ถอนตัวจากประเทศทั้ง 3 แล้ว หลังมีเจ้าหน้าที่ 2 คน ต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อ
อีโบลาหลังจากสัมผัสกับผู้ที่ภายหลังเสียชีวิตเพราะเชื้ออีโบลา
โฆษกหญิงของ พีซ คอร์ป กล่าวว่า อาสาสมัครทั้ง 2 คนยังไม่แสดงอาการของโรคออกมาให้เห็น และตอนนี้
ถูกแยกตัวจากคนอื่นๆ และกำลังอยู่ระหว่างการสังเกตการณ์
ทั้งนี้ บุคลากรทางการแพทย์หลายรายต้องป่วยหรือสังเวยชีวิตจากการต่อสู้กับเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้แล้ว
หลายราย โดยล่าสุดคือ ดร.ชีค อูมาร์ คาน หัวหน้าทีมแพทย์แห่งประเทศเซียร์ราลีโอน ซึ่งติดเชื้อเมื่อ
สัปดาห์ก่อนและเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา