เจ้าหน้าที่ทหารจาก กองพันทหาราบมณฑลทหารบก ที่ 11 หรือ พัน.ร.มทบ.11 นำตัว 1 ในผู้ต้องหาเครือข่ายอ้างเป็นกษัตริย์มอญ หลอกลงทุนในพม่ากรณี ฮัจยี กรุ๊ป หลอกตุ๋น บริษัทรับเหมาทั่วประเทศ มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้าน ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนกองปราบ
วันนี้ (11 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่ทหารจาก กองพันทหาราบมณฑลทหารบก ที่ 11 หรือ พัน.ร.มทบ.11 คุมตัวนางสุภัตทา จันทรรังสี ประธานบริษัท ฮัจยี กรุ๊ป จำกัด ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกง และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามหมายจับคดีพิเศษ มาส่งมอบให้ตำรวจกองปราบปราม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน ส่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการสอบสวนต่อไป หลังจากที่นางสุภัตทามีพฤติการณ์ก่อตั้งบริษัท ฮัจยี กรุ๊ป ซึ่งไม่มีจริง ร่วมกับนายกวน มิน โอ หรือ นายเทพโยธิน มหาทุน สัญชาติพม่า เพื่อสร้างเรื่องเท็จหลอกลวงนักธุรกิจ ให้ร่วมลงทุนในกิจการร่วมระหว่างรัฐบาลไทย-เมียนมาร์ รวม 78 โครงการ โดยอ้างว่านายเทพโยธินเป็นเชื้อสายของกษัตริย์รัฐมอญทำให้ได้รับสัมปทานโครงการใหญ่จากรัฐบาลพม่า ตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน เช่น โครงการถมทรายปนเปื้อนชายฝั่งตะวันออก มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อกว่า 1,200 บริษัท / โครงการขุดลอกคูคลองจังหวัดอุดรธานี มีบริษัทตกเป็นเหยื่อกว่า 48 บริษัท / การเซ็นสัญญาเอ็มโอยูของบริษัทชัยรัชกุล มีบริษัทตกเป็นเหยื่อกว่า 400 บริษัท / โครงการร่วมกินการระหว่างไทย-มอญ เมืองเยและเมืองปาโอ มีบริษัทตกเป็นเหยื่อกย่า 78 บริษัท รวมบริษัทที่เสียหายเกือบ 2,000 บริษัท มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท
นอกจากนี้ตำรวจยังพบความเชื่อมโยงไปถึงมูลนิธิอาสาบรรเทาภัย ที่มีการแอบอ้างชื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย โดยบริษัทที่ร่วมลงทุนกับบริษัทฮัจยีกรุ๊ปนั้น จะต้องสมัครเป็นสมาชิกของมูลนิธิดังกล่าว และเก็บค่าสมัครราคาสูง เพื่อได้รับผลตอบแทนเป็นการเลี่ยงภาษีจากการประกอบธุรกิจ และได้รับประดับยศเทียบเท่ายศตำรวจด้วย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับมูลนิธิดังกล่าว เพราะมีหลักฐานเชื่อได้ว่ามูลนิธิดังกล่าวดำเนินการไม่ถูกต้อง และแอบอ้างชื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมในเครือบริษัทฮัจยีกรุ๊ปอีกไม่ต่ำกว่า 7 คน
ส่วนข้อหาแอบอ้างเบื้องสูง ตามมาตรา 112 นั้น ขณะนี้คณะกรรมการร่วมตำรวจ ดีเอสไอ และทหาร อยู่ระหว่างตรวจสอบเครื่องราชอิสริยยศและตราสัญลักษณ์ที่นายเทพโยธินนำมาแอบอ้างติดบนเครื่องแบบตำรวจก่อน จากนั้นจะพิจารณาไปตามกระบวนการต่อไป