เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 10 ธ.ค. พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผบก.น.9 สั่งการให้ พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขี่ยมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม, พ.ต.ท.ธนกร จันรอด รอง ผกก สส.สน.ท่าข้าม, พ.ต.ท.ไกรฤกษ์ สิทธิโชติ สว.สส.สน.ท่าข้ามและ ร.ต.อ.นิรันดร์ เมืองใจ รอง สว.สส.สน.ท่าข้าม นำกำลังฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม จับกุมตัว นางสาวภัณฑิรา หรือออย กำหนดศรี อายุ 29 ปี พร้อมของกลาง เสื้อฮู้ดแขนยาว สีชมพู มีลายรูปหัวเสือ จำนวน 1 ตัว, กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล จำนวน 1 ตัว, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Iphone 12 สีม่วง จำนวน 1 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 125 ไอ สีเทาเข้ม ติดแผ่นป้ายทะเบียน 7ขบ 7522 กรุงเทพมหานคร (คันที่ใช้ในการก่อเหตุ) โดยจับกุมได้ที่หน้าห้องเช่าเบอร์ 6 ห้องเช่าไม่มีชื่อ กลางซอยต้นงิ้ว ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
การจับกุมครั้งนี้เมื่อวันที่ 30 พ.ย.67 เวลาประมาณ 09.29 น. ได้มี น.ส.ชุลีภรณ์ ไชยอำนาจ อายุ 23 ปี ผู้เสียหาย เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหาย ได้นำรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 110 ไอ สีดำ-แดง ป้ายทะเบียน 1กม 4224 มหาสารคาม จอดไว้บริเวณหอพักเคเคพอรด์ 3/8 ซอยเจริญดี ถนนเทียนทะเล 7 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.
ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. พบว่ารถจักรยานยนต์ของตนได้หายไป จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ ต่อมาตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหอพักเคเคพอรด์ 3/8 ซอยเจริญดี พบคนร้าย จำนวน 2 คน ได้ลักเอารถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 110 ไอ สีดำ-แดง คันดังกล่าวหลบหนีไป
จากการตรวจสอบพบยานพาหนะคนร้ายที่ใช้หลบหนี เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 125 ไอ สีเทาเข้ม ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน (คันที่ใช้ในการก่อเหตุ) และจากภาพกล้องวงจรปิดเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี พบว่าคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเข้าไปห้องเช่าไม่มีชื่อ กลางซอยต้นงิ้ว ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนนำกำลังไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 125 ไอ สีเทาเข้ม ติดแผ่นป้ายทะเบียน 7 ขบ 7522 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีลักษณะตรงกันกับรถจักรยายนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ จอดอยู่บริเวณหน้าห้องเช่าเบอร์ 6 ห้องเช่าไม่มีชื่อ กลางซอยต้นงิ้ว จ.สมุทรสาคร และพบนางสาวภัณฑิรา หรือออย กำหนดศรี ผู้ต้องหายืนอยู่บริเวณหน้าห้องเช่าดังกล่าว แสดงตัวเป็นเจ้าของรถจักรยายนต์คันดังกล่าว ประกอบกับนางสาวภัณฑิรา ฯ มีตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลที่ก่อเหตุตามภาพกล้องวงจรปิด ทำทีแสดงอาการพิรุธ และจะวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตนขอทำการตรวจค้น
โดยนางสาวภัณฑิราฯ รับว่าตนเป็นบุคคลตามภาพกล้องวงจรปิด และรับว่าได้ร่วมกับนายชัยชนะ หรือเก้า รุ่งเรือง ซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 ของผู้เสียหายไปจากบริเวณหอพักเคเคพอรด์ 3/8 ซอยเจริญดี ถนนเทียนทะเล 7 แขวงแสมดำ กทม. เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ช่วงเวลาประมาณ 01.25 น. จริง ส่วนรถจักรยายนต์ของกลาง ซึ่งจอดอยู่บริเวณหน้าห้องเช่าดังกล่าวเป็นรถคันที่ใช้ก่อเหตุ
ผู้ต้องหารับอีกว่า เมื่อตนนำรถจักรยานยนต์คันที่ลักมาถึงห้องเช่าดังกล่าว ซึ่งเป็นที่พักของตน ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ ของตนบันทึกภาพรถจักรยายนต์ที่ลักมา พร้อมกับรับว่าภายในตู้เสื้อผ้าห้องเช่ามีชุดที่ตนสวมใส่ในวันก่อเหตุจริง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานก่อนนำตัวไปสอบสวนที่ สน.ท่าข้าม
นอกจากนี้ น.ส.ภัณฑิรา หรือออย ผู้ต้องหาให้การอีกว่า นายชัยชนะ หรือเก้า สามีตน เพิ่งถูก ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร จับกุมตัวตามหมายจับในข้อหาลักทักทรัพย์ ฝ่ายสืบสวนจึงเดินทางไป สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อสอบปากคำ โดยนายชนะชัย ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ อยู่ในช่วงขอประกันตัว ติดกำไล EM ที่ข้อเท้า และออกมาทำมาหากินได้ 4-5 เดือน
สอบสวน นายชัยชนะ ให้การว่า ก่อเหตุมาประมาณ 6-7ครั้ง แล้วนำไปขาย คันละ 5,000-6,000บาท ต่อคัน ส่วนเงินที่ได้มานำไปใช้จ่ายในครอบครัว ตนตบกับ น.ส.ภัณฑิราฯ แฟนสาวมาได้ 3 ปี และยังได้ร่วมกับน้องเขยก่อเหตุมาก่อน แต่ตอนนี้น้องเขยถูกจับกุมไปแล้วเลยชวนเมีย น.ส.ออย มาก่อเหตุที่พื้นที่ สน.ท่าข้าม กระทั่งมาถูกจับกุม
ต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม ได้ประสานให้ผู้เสียหายเข้ามาชี้ตัวผู้ต้องหา และดูรถของกลางที่ สน.โดยมี นายขจร แก้วแดง 25 ปี ผู้เสียหายเจ้าของรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ ไอ 125 แจ้งความไว้เมื่อวันที่ 10 ต.ค.67 ที่สภ.บางน้ำจืด ได้ติดต่อขอรถคืน โดยทำหายที่บริเวณหน้าอพาร์ตเมนต์ช่วงตี 2 มาตรวจสอบรถของกลาง พบว่าถูกเปลี่ยนชุดสี และสวมทะเบียนอำพราง แต่มีเลขตัวถังตรงตามเล่มรถ โดยนายขจร รู้สึกดีใจปลื้มปริ่มที่ได้รถคืนด้วย
ขณะที่หญิงสาวผู้เสียหาย อีกราย ได้เข้ามาพูกคุยกับผู้ต้องหา ด้วยอาการโมโห พร้อมกับสอบถามหารถตนเอง ระบุว่า ผ่อนรถคันนึงราคา 60,000 บาทเดือนละ 6,800 บาท กว่าจะได้ยากลำบากต้องผ่อนหลายปี หากจะเอาของคนอื่นทำไมไม่รู้จักทำมาหากิน ตนก็มีลูก มีหนี้ต้องใช้ มาเอารถตนไปแบบนี้ใช้สมองส่วนไหนคิด ซึ่งทุกวันนี้ หลังจากที่รถถูกขโมยไปก็ต้องเดินไปรับน้องหลังเลิกงาน และรถต้องใช้ทำมาหากิน
เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้ามเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
///////////////////////////////////////////////////