รั้งไม่อยู่-อิสราเอลถล่มกาซ่าแรงขึ้นอีก
เมื่อ 29 ก.ค. เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าศึกกาซ่าเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 ว่า ในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 28 ก.ค.
อิสราเอลเพิ่มการโจมตีทางอากาศขึ้นอีก มีผู้เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 60 ราย รวมถึงเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ
ส่วนโรงไฟฟ้าแห่งเดียวของชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ถูกทำลาย ทางโฆษกกองทัพอิสราเอลแจ้งว่าการโจมตี
นี้เป็นสัญญาเพิ่มแรงกดดันต่อกลุ่มติดอาวุธฮามาสทีละน้อย หลังนายเบนจามิน เนตันยาฮู นายกรัฐมนตรี
อิสราเอลกล่าวว่า ยุทธการของอิสราเอลจะยังดำเนินต่อไป จนกว่ากองทัพทำลายอุโมงค์ที่กลุ่มฮามาส
ขุดลึกเข้ามาในอิสราเอลเพื่อโจมตีภาคพื้นดิน
อยตุลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำทางด้านศาสนาสูงสุดของอิหร่าน กล่าวประณามอิสราเอลว่ากำลังก่อการ
ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ในกาซ่า และเรียกร้องให้ประชาคมโลก โดยเฉพาะชาติอิสลาม ปกป้องชาวปาเลสไตน์
นายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติระบุว่า น่าวิตกมากเรื่องที่อิสราเอลจะโปรยใบปลิวเตือนชาวปาเลสไตน์
ให้อพยพจากพื้นที่ทางเหนือ เพราะยูเอ็นไม่มีปัจจัยจะช่วยรับมือจากการหลั่งไหลของพลเรือนจำนวนมาก
ด้านผู้นำปาเลสไตน์ พยายามหาทางเสนอการหยุดยิงอีก 1 วัน ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมและการหยุดยิง
ถาวร นายยัสเซอร์ อาเบ็ด รับโบ เลขาธิการกลุ่มพีแอลโอ ของปาเลสไตน์กล่าวว่า ปรึกษากับกลุ่มฮามาส
และอิสลามิก จีฮัดแล้ว กลุ่มติดอาวุธทั้งสองยินดีที่จะพักรบ
เหตุการณ์ความขัดแย้งที่ดำเนินมานานกว่า 22 วัน ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 1,115 รายแล้ว
ขณะที่ฝ่ายอิสราเอลเสียกำลังพลไป 53 ราย พลเรือน 3 ราย รวมคนไทยด้วย 1 ราย สถิติจาก
สหประชาชาติระบุว่าชาวปาเลสไตน์กว่า 215,000 คนลี้ภัยออกจากบ้านพักอาศัย โดยกว่า
170,461 คนลี้ภัยอยู่ที่โรงเรียน 82 แห่ง