ด้วยปัญหากลุ่มวัยรุ่นนักเรียนนักเลงก่อเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกันในปัจจุบัน มีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น จนในบางครั้งมีการบาดเจ็บถึงขึ้นเสียชีวิต เนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นนักเรียนนักเลงเริ่มใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุ อีกทั้งปัจจุบันยังมีกลุ่มบุคคลเสนอขายอาวุธปืนและสิ่งเทียมอาวุธปืนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ความสนใจต่อสภาพปัญหาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงได้กำเนิดแนวคิดตัดวงจรผู้ค้าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนผิดกฎหมาย ออกมาในรูปแบบของการจับกุมผู้ค้าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเถื่อนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการลดปัญหาอาชญากรรมโดยตรงเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้กับประชาชน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. ได้ทำการสืบสวนเรื่อยมาจนกระทั่งวันที่ 18 กันยายน 2560 เวลา 17.50 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รอง ผบช.ทท. , พ.ต.อ.นิติพันธุ์ โรหิโตปการ รรท.ผบก.สปพ. , พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. , สั่งการให้ พ.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบก.สปพ. และ พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี ผกก ควบคุมฝูงชน ๒ นำกำลังชุดสืบสวนขยายผลติดตามแหล่งผลิตอาวุธปืนเถื่อนซึ่งดัดแปลงจากปืนบีบีกันให้สามารถยิงเครื่องกระสุนปืนจริงได้ จำหน่ายให้กับลูกค้าทางโซเชียลมีเดียอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ขยายผลไปยังผู้ผลิตผู้ค้าอื่นซึ่งยังมีพฤติกรรมดังกล่าว ชุดสืบสวนขยายผล บก.สปพ. สามารถสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคือ
1.นายอุดม ร่วมจิตร อายุ 37 ปี เลขประจำตัวประชาชน 3350100096176
ที่อยู่ บ้านเลขที่ 91/61 ม.8 ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
2.นายสิทธิศักดิ์ พัดไธสง อายุ 37 ปี เลขประจำตัวประชาชน 3440800912331
ที่อยู่ บ้านเลขที่ 25 ม.15 ต.รอบเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด
พร้อมด้วยของกลาง
1.อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 จำนวน 10 กระบอก
2.อุปกรณ์ในการดัดแปลงสภาพบีบีกันเป็นอาวุธปืน จำนวน 200 ชุด
3.เครื่องกระสุนปืน จำนวน 200 นัด
4.เครื่องมือในการดัดแปลงสภาพปืน จำนวน 14 รายการ เช่น ค้อน ตะไบ โม่ปืน ลำกล้อง สปริงแหนบ
5.อุปกรณ์การยิงทดสอบในที่ร่ม จำนวน 1 ชุด
จับกุมได้ที่ ร้านรับส่งพัสดุเอกชน ซอยประชาอุทิศ 90 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องบ้านเลขที่ 39/538 ซอยประชาอุทิศ 125 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร
จากการซักถามขยายผล นายอุดมฯและนายสิทธิ์ศักดิ์ฯให้การรับสารภาพว่า ผู้ต้องหาทั้งสองได้ร่วมกันผลิตอาวุธปืนเถื่อนโดนการดัดแปลงจากปืนบีบีกัน สามารถยิงเครื่องกระสุนปืนจริงทำอันตรายแก่คนทั่วไปได้ จำหน่ายอาวุธปืนผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดียมานานแล้วประมาณ 8 เดือน จำหน่ายให้กับลูกค้ามาแล้วกว่า 200 กระบอก โดยจำหน่ายในราคากระบอกละ 8,500 บาท โม่ปืนอันละ 2,500 บาท และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจค้นยังบ้านพักของนายสิทธิ์ศักดิ์ฯ เลขที่ 39/538 ซอยประชาอุทิศ 125 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร พบว่ามีการผลิตอาวุธปืนเถื่อนเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการทดลองอาวุธปืนเพื่อปรับปรุงคุณภาพให้ใกล้เคียงกับอาวุธปืนจริง เพื่อให้สามารถขายให้กับลูกค้าที่ต้องการอาวุธปืนเถื่อนที่มีประสิทธิภาพได้มาก สามารถซื้อไปใช้งานหรือนำไปก่อเหตุได้ในราคาถูก
จึงจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองในข้อหา “ร่วมกันผลิตอาวุธปืนและมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพยายามจำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่ง สน.ทุ่งครุ ดำเนินคดี และจะได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อปราบปรามขบวนการผลิต จำหน่ายอาวุธปืนออนไลน์อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้กับประชาชน ต่อไป
ทั้งนี้ยังได้มีการจับกุมเครือข่ายจำหน่ายยาเสพติดออนไลน์ แจ๊ค ทองหล่อ ที่ขยายผลจากการจับกุมเครือข่าย นายกันชัย ฤกษ์แสนสุข และ น.ส.สกาว ยันต์ไพร พร้อมของกลางกัญชาจำนวน ๒๗.๕กิโลกรัม ในบ้านหรูตรวจยึดทรัพย์สินที่ได้จากการจำหน่ายยาเสพติดออนไลน์จำนวนหลายสิบล้านบาท ซึ่งได้จับกุมไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2560
คือ นายเลอศักดิ์ หรือแจ็ค นิลรัตน์ อายุ ๓๔ ปี เลขบัตรประชาชน ๓๑๐๐๙๐๑๓๓๒๓๑๗
ที่อยู่บ้านเลขที่ ๖๗/๔๒ ซอยแจ่มจันทร์ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
บุคคลตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ จ.๑๔๗/๒๕๖๐ ลง ๕ เม.ย.๒๕๖๐
พร้อมของกลาง บัตรประชาชนที่ปลอมภาพใบหน้าในบัตรระบุชื่อ นายพงค์พันธ์ นิลรัตน์ หมายเลขบัตรประชาชน ๑๑๐๐๗๐๐๒๕๕๗๖๙ อยู่ที่ ๖๒๙/๑ ซ.นวลจิต แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์และยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย,ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท5(กัญชา)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีและใช้เอกสารราชการปลอม (บัตรประชาชนปลอม)” จับกุมตัวส่ง สน.ทองหล่อ ดำเนินคดี
นอกจากนี้ยังได้ตรวจยึดรถยนต์สปอร์ตหรูยี่ห้อเบ็นซ์ รุ่นซี๑๘๐ คูเป้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ๓กฐ ๘๓๓๓ กทม. ที่นายเลอศักดิ์ฯได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติดออนไลน์ให้กับลูกค้า และจากการตรวจสอบพยานหลักฐานการสืบสวนพบว่า นายเลอศักดิ์ฯ ยังมีการจำหน่ายยาเสพติดออนไลน์ ส่งให้กับลูกค้าจำนวนมากในตลอดระยะเวลาที่หลบหนีหมายจับ และสามารถประสานงานจับกุมปลายทางผู้สั่งซื้อยาเสพติดจากเครือข่ายของนายเลอศักดิ์ฯ ได้อย่างน้อย 10 ราย ซึ่งอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานอย่างรัดกุมเพื่อดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป….
/////////////
#ขอบคุณภาพข่าว cr.ป๋าหรั่ง/ฝั่งธน (นสพ.พิมพ์ไทย) <
#ธีรพล ปลืมถนอม (ผู้สื่อข่าวช่อง62บางกอกเเชลแนล) รายงาน <