เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 11 กันยายน ที่ สน.ลุมพินี อุ๊-หฤทัย พร้อมนายสมโชค สุทธิโสม สามี และนายจงรักษ์ เหล็งหนูดำ ทนายความ เข้าพบ ร.ต.ท.จักรพงศ์ พิทักษ์กรสกุล รอง สว. (สอบสวน) สน.ลุมพีนี เพื่อแจ้งความกรณีถูกกลุ่ม ชายฉกรรจ์ 6 ราย เข้ามาทำร้ายร่างกายที่ร้านกางเกงมวยย่าน ซอยบ่อนไก่ จนได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าบวมช้ำ เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา
ด้าน อุ๊-หฤทัย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีกลุ่มของค่ายมวยแห่งหนึ่งมายืนดูที่ร้านแล้วพบแบบกางเกงของแบรนด์ค่ายมวย 2 แบบ แขวนอยู่ 2 ตัว ที่ร้านของตน ต่อมาเมื่อวันที่ 6 กันยายน ประมาณ 12.00 น. ซึ่งภายในร้านมีนายสมโชค (สามี) ทำงานอยู่ภายในร้านเพียงคนเดียว ก่อนที่จะมีกลุ่มของเจ้าของค่ายมวยพร้อมพวกรวม 6 ราย โดยเป็นคนไทย 4 ราย ชาวอินเดีย 1 ราย และชาวต่างชาติอีก 1 ราย ไม่ทราบสัญชาติ ระหว่างที่มีการทำร้ายร่างกายกันอยู่ ซึ่งสามีโดนชกเข้าที่ใบหน้า 4 ครั้ง โดยไม่มีการตอบโต้ ซึ่งมีลูกน้องที่ร้านเห็นเหตุการณ์กำลังเข้ามาช่วยแต่ชายไทย 4 ราย ปิดประตูร้านและทำท่าทีข่มขู่เหมือนจะหยิบอาวุธจากกระเป๋า ซึ่งก็ไม่ใครเข้ามาช่วยเหลือสามีของตนได้ แต่ลูกน้องภายในร้านถ่ายเพียงคลิปไว้เท่านั้น ต่อมา หนึ่งในผู้ก่อเหตุชาวอินเดียได้ทำการตะโกนใส่ความแก่ร้านของตนว่าลอกเลียนแบบ จนทำให้คนอื่นเข้าใจผิด คาดว่านี่อาจจะเป็นสาเหตุที่เข้ามาทำร้ายร่างกาย โดยด้านนายสมโชคเข้าใจว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิด
ด้าน นายสมโชคกล่าวว่า ตนเคยร่วมกับธุรกิจกับค่ายมวยนี้มา 3-4 ปีแล้ว ซึ่งเคยมีปากเสียงกันอยู่ 1 ครั้ง คือได้ออกแบบกางเกงซึ่งเป็นแบบกางเกงของทางร้านอยู่แล้ว ต่อมาทางค่ายได้สั่งทำกางเกงมวยแบรนด์ค่ายมวยโดยให้รูปแบบกางเกงนั้นเป็นแบบของทางร้านและให้ใส่โลโก้แบรนด์นี้ ซึ่งก็ไม่ได้ว่าอะไร ต่อมาภายหลังค่ายมวยก็ได้ตกลงกับตนว่า รูปแบบของกางเกงดังกล่าวนั้นอยากให้ผลิตให้ค่ายมวยแต่เพียงผู้เดียว ก่อนตนจะยอมและผลิตให้มาระยะหนึ่ง ภายหลังรู้สึกว่าได้กำไรไม่คุ้มจึงขอยกเลิก ต่อมาค่ายมวยก็ได้สั่งกางเกงตนอีกครั้ง 20 ตัว ราคา 8,000 บาท ในรูปแบบเดิม ก่อนที่จะมีการแจ้งให้ผู้สั่งนั้นเข้ามารับแต่ก็ไม่มีผู้ใดมารับ ซึ่งจำนวนกางเกงที่สั่งนั้นไม่ได้มีการจ่ายเงินมาก่อน และเงียบหายไปกว่า 6 ปี ซึ่งมารู้อีกที่ว่าได้เปิดโรงงานของตัวเองแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว ก่อนที่จะนำกางเกงจำนวน 20 ตัวดังกล่าวที่สั่งมาขายจนหมด ก่อนที่จะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยเตรียมแจ้งข้อหาแก่กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้ง 6 ราย 3 ข้อหา คือ บุกรุก, ทำร้ายร่างกาย, และหมิ่นประมาท ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ก็รวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงคลิปวิดีโอ