พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เผยคดี “แอม ไซยาไนด์” ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ นำมาถอดบทเรียนใช้เป็นแนวทางสืบสวนสอบสวนของวงการตำรวจได้เป็นอย่างดี ส่วนอีก 14 คดีที่เหลือ นัดส่งสำนวนให้อัยการกองคดีอาญา 26 พ.ย.นี้
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนคดีแอมไซยาไนด์ กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่มีการฆ่าผู้เสียหายด้วยไซยาไนด์ และเป็นคดีหนึ่งที่มีการกล่าวหามากถึง 15 คดี เป็นคดีต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558-2566 โดยในปี 2565 ผู้ต้องหาก่อคดีมากที่สุด 7 ศพ คดีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมหลักฐาน สามารถนำมาถอดบทเรียนไปใช้เป็นทิศทางที่คล้ายคดีในลักษณะแบบนี้ของวงการตำรวจได้เป็นอย่างดี
ส่วนคดีที่เหลืออีก 14 คดีจะสามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาได้หรือไม่นั้น พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า คดีอื่นๆ ที่เหลือแม้เกิดมานานแล้ว แต่พนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจภูธรภาค 4 ตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจนครบาล ได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้เป็นอย่างดี มีข้อกำหนดในการรวบรวมหลักฐานไว้ 3 ประการ เพื่อให้การดำเนินคดีไปในทิศทางเดียวกัน คือ ประการแรก ผู้ตายทั้งหมดตายด้วยไซยาไนด์ ประการที่สอง ผู้ตายมีความเกี่ยวพันกับผู้ต้องหาหรือไม่ และประการสุดท้าย ผู้ตายมีมูลเหตุจูงใจให้ผู้ต้องหาลงมือฆ่าหรือไม่
“เมื่อพิจารณาดูแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งสามประการ ทำให้พนักงานสอบสวนทั้ง 14 คดีที่เหลือพบว่าสอดคล้องกันหมด ในการตายของผู้เสียชีวิตมีแอมทุกคดี นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ตายแต่ละราย ล้วนแต่มีแอมเป็นลูกหนี้ทั้งสิ้น เป็นการฆ่าเพื่อเอาทรัพย์สินจากผู้ตายทุกคดี” พ.ต.อ.เอนก กล่าว
รอง ผบก.ป.กล่าวต่อว่า คดีนี้ผู้ต้องหาได้ปฏิเสธทั้งหมดทุกคดี หากรับสารภาพในชั้นศาลจะอยู่ในดุลพินิจว่าจะลดโทษในคดีอื่นๆ ให้หรือไม่ โดยอีก 14 คดีที่เหลือนั้น พนักงานสอบสวนได้นัดหมายส่งสำนวนให้อัยการกองคดีอาญา วันอังคารที่ 26 พ.ย. เวลา 10.00 น.