มูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ จัดพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างพระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือ
แกะลักด้วยหินหยกขาว ความสูง 16.40 เมตร
ณ มหากรุณานุวรณ์กุศลสถาน
เลขที่ 888 หมู่ที่ 8 ถนนลพบุรี-บ้านแพรก
ตำบลป่าตาล อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
เมื่อเวลา 09.09 น ในวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ทางมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์
จัดพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างพระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือ แกะสลักด้วยหินหยกขาว ความสูง 16.40 เมตร ประดิษฐาน ณ มหากรุณานุสรณ์กุศลสถาน
โดยมี เจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม
ประธานพิธี
วางศิลาฤกษ์สร้างพระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือ และ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศผัดไทยพรหมเลิศ
อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย
ประธานกรรมการป้องกันและประปาฟอกเงิน(ปปง) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
จัดขึ้นโดย มูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์
โดยมีนายสุวัฒน์ เอนกศักยพงศ์
ประธานมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์
นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี
เวลาต่อมา มี
นายอำพล อังภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นายประยูร ศิริวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี
ว่าที่ร้อยตรี ทรงพล แป้นแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี
นายสิทธิชัย หล่อประสงค์สุข
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี
โดยมีแขกผู้มีเกียรติ นายสุปกิต โพธิ์ปภาพันธ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี
นายสุวัฒน์ เอนกศักยพงศ์
ประธานมูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ ได้กล่าวว่า มูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ เป็นองค์กรการกุศลของชาวเมืองลพบุรี ก่อตั้งมา 56 ปี โดยให้การสังคมสงเคราะห์ บรรเทาสาธารณภัยด้านต่างๆ ให้การสนับสนุนการศึกษาและกิจกรรมของทางราชการและองค์กรต่างๆ ตลอดมา
ซึ่งมีวัตถุประสงค์ ร่วมกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ประสบภัยจากอุบัติเหตุ และภัยธรรมชาติ รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากความไม่สงบ ส่วนการจัดสร้างก่อสร้าง“มหากรุณานุสรณ์กุศลสถาน” ตั้งอยู่เลขที่ 888 หมู่ 8 ถนนลพบุรี-บ้านแพรก กม.ที่ 74.5 ตำบล ป่าตาล อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี เพื่อเป็นสถานที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิม ปางพันพระ กร แกะสลักจากหินหยกขาว ที่มีขนาดความสูงจากพระบาทถึงปลายมวยผม 16.40 เมตร จากโรงงาน ในมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้ประชาชนทั่วไปที่เชื่อถือศรัทธาได้สักการะบูชา และเพื่อก่อสร้างอาคารประกอบต่อเนื่อง สำหรับใช้ดำเนินการกิจกรรมของมูลนิธิๆ ต่อไปภายหน้า
โดยประธานพิธีได้จุดพิธีธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์ให้ศีล เจ้าพนักงานนำแผ่นศิลาฤกษ์ให้ประธานสงฆ์ปิดทอง ต่อจากนั้นประธานจุดเครื่องบูชาฤกษ์ ประธานนำใบเงิน ใบทอง ใบนาค เหรียญเงิน เหรียญทอง โปรยลงหลุมศิลาฤกษ์และตอกเข็มมงคล 9 ต้น พร้อมวางอิฐทอง-นาก-เงิน 9 แผ่น วางแผ่นศิลาฤกษ์ วางตลับนพรัตน์ โปรยข้าวตอกดอกไม้ เหรียญเงิน เหรียญทอง ลงในหลุมศิลาฤกษ์ พระสงฆ์จำนวน 9 องค์เจริญชัยมงคลคาถา
และมี ท่านเจ้าคุณพระราชวิสุทธิประชานาถ (อลงกต ติกฺขปญฺโญ)
ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 3
พระธรรมวชิรสุนทร
เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี
พระภาวนาวชิรมงคล
รองเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี
และ พระครูสิริจริยาภรณ์
เจ้าคณะอำเภของอเมืองลพบุรี
ได้ร่วมพิธี
วางศิลาฤกษ์ ในครั้งนี้ด้วย
โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระธีรญาณมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม วัดเทพศิรินทราวาส ประธานในพิธีฯ
เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่บุคลากรข้าราชการลูกจ้างและพนักงานในสังกัดของทุกๆ ส่วนราชการ ตลอดจนประชาชนในอำเภอเมืองลพบุรี
และ เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือ แกะสลักด้วยหินหยกสีขาว ความสูง 16.40 เมตร
เพื่อเป็นที่ยึดเหนียวจิตใจคณะกรรมการบริหารมูลนิธิสามัคคีสงเคราะห์
และสาธุชนผู้มีจิตศรัทธา
ประวัติความเป็นมาแห่งพระโพธิสัตว์กวนอิม
พระโพธิสัตว์กวนอิมในตำนานฝ่ายจีน
พระโพธิสัตว์กวนอิม (ประสูติ 19 เดือนยี่จีน) เดิมเป็นเทพธิดาซึ่งต้องการช่วยปลดเปลื้องทุกข์ภัยแก่มวลมนุษย์ ในชาติสุดท้ายจึงจุติลงมายังโลกมนุษย์นาม เจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน เป็นพระราชธิดาองค์เล็กของกษัตริย์แห่งอาณาจักรซิงหลิง พระนามว่า พระเจ้าเมี่ยวจวง กับพระนางเซี่ยวหลิน (พระนางเป๋าเต๋อ) มีพระพี่นาง 2 พระองค์ คือ เจ้าหญิงเมี่ยวอิม และเจ้าหญิงเมี่ยวหยวน
ในเยาว์วัย เจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน ทรงเป็นพุทธมามกะ รู้แจ้งในหลักธรรมลึกซึ้ง ตั้งพระทัยแน่วแน่จะบำเพ็ญภาวนา เพื่อหลุดพ้นสังสารวัฏ ทรงออกบวชวันที่ 19 เดือน 9 พระเจ้าเมี่ยวจวงไม่เห็นด้วย จึงบังคับให้เลือกราชบุตรเขย เพื่อจะได้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป แต่เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านไม่สนพระทัยเรื่องลาภ ยศ สรรเสริญ อันจอมปลอม แม้จะถูกพระบิดาดุด่าอย่างไร พระองค์ก็ไม่เคยนึกโกรธเคืองแต่อย่างใด
ต่อมาเจ้าหญิงเมี่ยวซานได้ถูกขับไปทำงานหนักในสวนดอกไม้ เช่น หาบน้ำ ปลูกดอกไม้ ทั้งนี้เพื่อทรมานให้เปลี่ยนความตั้งใจ แต่ก็มีเหล่ารุกขเทวดามาช่วยทำแทนให้ทั้งหมด เมื่อพระเจ้าเมี่ยวจวงเห็นว่าไม่ได้ผล จึงรับสั่งให้หัวหน้าแม่ชี นำเจ้าหญิงเมี่ยวซาน ไปอยู่ที่วัดนกยูงขาว และให้เอางานของแม่ชีทั้งวัดมอบให้เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านทำพระองค์เดียว แต่พระองค์มีพระทัยเด็ดเดี่ยว ไม่เกี่ยงงานการต่างๆ ก็มีเหล่าเทพารักษ์มาช่วยทำแทนให้อีก พระเจ้าเมี่ยวจวงเข้าพระทัยว่า พวกแม่ชีไม่กล้าเคี่ยวเข็ญใช้งานหนัก ก็ยิ่งทรงกริ้วหนักขึ้น สั่งให้ทหารเผาวัดนกยูงขาวจนวอดเป็นจุณไป พร้อมกับพวกแม่ชีทั้งวัด มีแต่เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านเท่านั้นที่ปลอดภัยรอดชีวิตมาได้
พระเจ้าเมี่ยวจวงทรงทราบดังนั้น จึงรับสั่งให้นำตัวเจ้าหญิงเมี่ยวซ่านไปประหารชีวิต เทพารักษ์คอยคุ้มครองเจ้าหญิงเมี่ยวซ่านอยู่ โดยเนรมิตทองทิพย์เป็นเกราะห่อหุ้มตัว คมดาบของนายทหารจึงไม่อาจระคายพระวรกาย ดาบหักถึง 3 ครั้ง 3 ครา พระเจ้าเมี่ยวจวงทรงกริ้วยิ่งนัก โดยเข้าพระทัยว่านายทหารไม่กล้าประหารจริง จึงให้ประหารนายทหารแทน แล้วรับสั่งให้จับเจ้าหญิงเมี่ยวซ่านไปแขวนคอ ทว่าผ้าแพรที่แขวนคอก็ขาดสะบั้นลงอีก ทันใดนั้นปรากฏมีเสือเทวดาตัวหนึ่งได้นำเจ้าหญิงเมี่ยวซ่านขึ้นพาดหลังแล้วเผ่นหนีไปที่เขาเซียงซัน ต่อมา เทพไท่ไป๋ได้แปลงร่างเป็นชายชรามาโปรดเจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน ชี้แนะเคล็ดวิธีการบำเพ็ญเพียรเครื่องดับทุกข์ จนสามารถบรรลุมรรคผลสำเร็จธรรม วันที่ 19 เดือน 6 ข้างฝ่ายพระเจ้าเมี่ยวจวงเข้าพระทัยว่า เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านถูกเสือคาบไปกินเสียแล้ว จึงไม่ได้ติดใจตามราวีอีก
ต่อมาไม่นานบาปกรรมที่พระองค์ก่อไว้ส่งผล เกิดป่วยด้วยโรคร้ายแรง ไม่มียารักษาให้หายได้ เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านได้ทรงทราบด้วยญาณวิถีว่า พระเจ้าเมี่ยวจวงกำลังประสบเคราะห์กรรมอย่างหนัก ด้วยความกตัญญูกตเวทีเป็นเลิศ มิได้ถือโทษโกรธการกระทำพระบิดาแม้แต่น้อย ทรงได้สละดวงตาและแขนสองข้าง เพื่อรักษาพระบิดาจนหายจากโรคร้าย ว่ากันว่า ภายหลังสำเร็จอรหันต์ ได้ดวงตาและพระกรคืน เคยแสดงปาฏิหาริย์เป็นปางกวนอิมพันมือ เจ้าหญิงเมี่ยวซ่านนั้น ตอนแรกเป็นชาวพุทธ ตอนหลังเทพไท่ไป๋ได้มาโปรด ชี้แนะหนทางดับทุกข์ เหตุนี้พระโพธิสัตว์กวนอิมจึงเป็นเทพทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายเต๋าในเวลาเดียวกัน
พระโพธิสัตว์กวนอิม
ปางพันมือ
พระโพธิสัตว์กวนอิม ปางพันมือ สัญลักษณ์แห่งความแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล ที่สื่อถึงความหมายที่ดี ตามความเชื่อที่ว่า หากได้บูชาพระโพธิสัตว์กวนอิม ปางพันมือ แล้วจะแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง และด้วยเมตตาจิตของพระโพธิสัตว์กวนอิม จะทำให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข.
พระโพธิสัตว์กวนอิม ปางพันมือ เป็นปางหนึ่งของมหาโพธิสัตว์ อวโลกิเตศวร ตามความเชื่อ เมื่อประมาณหนึ่งหมื่นปีมาแล้ว เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศจีน ฝนตกหนักน้ำในแม่น้ำฮวงโหเกิดท่วม ผู้คนจำนวนมากถูกน้ำพัดพาไป พุทธศาสนิกชนได้สวดวิงวอนต่อพระโพธิสัตว์กวนอิมให้ทรงช่วย ทำให้พระองค์ต้องเสด็จลงมาช่วยผู้ที่ถูกน้ำท่วม แต่การมีเพียงสองมือ ย่อมช่วยได้ไม่ทันเหตุการณ์ พระองค์จึงทรงตั้งอธิษฐานว่าขอให้มีพันเนตร พันกร จะได้ช่วยคนได้ครั้งละพันกร และทันใดนั้นก็เกิดปาฏิหาริย์ตามที่ทรงอธิฐาน พุทธศาสนิกชนชาวจีน จึงสร้างองค์สมมุติพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางพันเนตรพันกรขึ้นไว้เคารพบูชา
福禄寿禧瑞祥 (ฟู๋ลู่เช่าสี่รุ่ยเซียง) : มหาคำอวยพร 3 ประการ
福 (ฟู๋) : อุดมไปด้วยทรัพย์สิน เงินทองไหลมาเทมา มั่งคั่งร่ำรวย
禄 (ลู่) : มีอำนาจวาสนา เป็นเจ้าคนนายคน ติดต่องานไร้อุปสรรค
寿 (เช่า) : มีอายุมั่นขวัญยืน ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
ความเป็นมงคล : แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง และด้วยเมตตาจิตของพระโพธิสัตว์กวนอิม จะทำให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข เพียบพร้อมด้วยเงินทอง อำนาจวาสนา อายุมั่นขวัญยืน
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ผู้อำนวยการ ศูนย์ข่าวภาคกลาง หนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ