กำลังพลจากกรมสรรพาวุธทหารบกจำนวน441 นายฝึกซ้อมเดี่ยวครั้งสุดท้ายในการฉุดชักราชรถในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ก่อนจะไปร่วมซ้อมเป็นส่วนรวมกับทุกภาคส่วนในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่จะเริ่มซักซ้อมในเดือนกันยายนนี้
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2560 ที่สนามบินเล็กกองทัพอากาศ ทุ่งศรีกัน กรมสรรพาวุธทหารบก ได้ทำการฝึกซ้อมพลฉุดชักราชรถใช้สำหรับเคลื่อนพระบรมศพ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กำลังพลจากกรมสรรพาวุธทหารบก จำนวน 441 นาย ได้ร่วมกันซักซ้อมการปฏิบัติในการฉุดชักราชรถในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม กรมสรรพุธทหารบก ได้ดำเนินการทั้งปวงเกี่ยวกับการฉุดชักราชรถมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การคัดเลือกกำลังพลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ใน 3 ส่วน คือ กำลังพลประจำราชรถพระนำ 79 นาย , กำลังพลประจำ พระมหาพิชัยราชรถ 222 นาย และกำลังพลประจำเกรินบันไดนาค 110 นาย
สำหรับการฝึกซ้อมในวันนี้เป็นการซ้อมเดี่ยวครั้งสุดท้ายของกรมสรรพาวุธทหารบก ก่อนจะไปร่วมซ้อมเป็นส่วนรวมกับทุกภาคส่วนในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่จะเริ่มซักซ้อมในเดือนกันยายน 2560 เป็นต้นไป ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ และพื้นที่ประกอบพระราชพิธี
ด้านพล.ท.อาวุธ เอมวงศ์ เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก ซึ่งเดินทางมาตรวจเยี่ยมการฝึกซ้อมได้กล่าวต่อกำลังพลตอนหนึ่งว่า นับเป็นความภาคภูมิใจของกรมสรรพาวุธทหารบก ที่ได้ถวายงานที่เกี่ยวข้องในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ทั้งการซ่อมบูรณะราชรถ ราชยาน พระยานมาศ รวมทั้งการจัดกำลังพล ร่วมในขบวนพระบรมราชอิสริยยศ เป็นความภาคภูมใจที่ได้แสดงออกถึงการถวายเกียรติสูงสุดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ นับตั้งแต่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทุกคนได้นำความเศร้าโศก แปรเปลี่ยนเป็นกำลัง ตั้งใจฝึกฝนอย่างเข้มแข็งตั้งใจ มุมานะแม้ฝนจะตก แดดจะแรงเพียงใดก็ไม่เคยท้อถอย แต่กลับปฏิบัติได้ดีขึ้นทุกๆวัน
“จากวันนี้จนถึงวันงานพระราชพิธีจะเหลือเวลาอีกเพียง 55 วัน จะได้ปฏิบัติภารกิจที่สำคัญยิ่งในชีวิต นับเป็นเกียรติยศอันสูงสุดของกำลังพลและของกรมสรรพาวุธทหารบกด้วย ที่ได้มีโอกาสถวายงานเป็นครั้งสุดท้าย ขอให้เวลาการฝึกซ้อมที่เหลือในอีก 11 ครั้งจากนี้ เป็นเวลาแห่งความสามัคคี ความประทับใจ ความทรงจำ ที่จะติดตรึงอยู่ในหัวใจในฐานะเป็นข้ารองพระบาทแห่งองค์พระมหากษัตริย์ไทย”พล.ท.อาวุธ กล่าว
สำหรับกำหนดการฝึกซ้อมในห้วงต่อไปมีดังนี้ การซ้อมย่อยที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ในห้วงวันที่ 4-19 ก.ย. และ 21 , 28 ก.ย., การซ้อมย่อยในพื้นที่จริง ณ บริเวณท้องสนามหลวง ในวันที่ 7 , 14 ต.ค. ,ในวันที่ 21 ต.ค.เป็นการซ้อมใหญ่ที่พื้นที่จริง และในวันที่ 26 ต.ค.วันประกอบพระราชพิธี กองทัพบก โดยกรมสรรพาวุธทหารบกได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในการบูรณะราชรถ ราชยาน และพระยานมาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระมหาพิชัยราชรถ เพื่ออันเชิญพระโกศทองใหญ่จาก พระบรมมหาราชวังเข้าสู่พื้นที่ประกอบพระราชพิธีถวาย พระเพลิงพระบรมศพฯ
นอกจากนี้ได้จัดสร้างราชรถปืนใหญ่ขึ้นใหม่ เพื่อใช้ในการอัญเชิญพระโกศทองใหญ่ลงจากพระมหาพิชัยราชรถ ประกอบริ้วขบวนในการเวียนรอบพระเมรุมาศ ก่อนอัญเชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นสู่พระเมรุมาศ ที่สำคัญได้รับมอบให้จัดกำลังพล เข้าร่วมการปฏิบัติในการฉุดชักราชรถร่วมในขบวนพระบรมราชอิสริยยศในพระราชพิธีด้วย