“วัชระ ส่งรายชื่อประชาชน จำนวน 207 คน ที่คัดค้านการยกเลิกโรงไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เผย หาก ครม.แพทองธาร มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอให้ยุบเลิกการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและไปยกให้บริษัทเอกชนสร้างที่จังหวัดราชบุรี ตนจะยื่นเรื่องร้องเรียนให้สำนักงาน ป.ป.ช. สอบสวนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเฉพาะผู้ลงมติเห็นชอบในวันรุ่งขึ้นทันที…”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลก เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งรายชื่อประชาชนที่คัดค้าน ประเด็นการยกเลิกโรงไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติ 1,400 เมกะวัตต์ของ กฟผ.ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีของกระทรวงพลังงานแล้วไปให้บริษัทเอกชนก่อสร้างที่จังหวัดราชบุรี และค่าไฟฟ้ามีราคาแพง ถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคน
โดยนายวัชระ เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ตามที่ตนได้กราบเรียนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกท่าน กรณีหากกระทรวงพลังงานเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติเรื่องยกเลิกโรงไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติ 1,400 เมกะวัตต์ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อนำไปก่อสร้างที่ภาคตะวันตกที่จังหวัดราชบุรีโดยให้บริษัทเอกชนสร้างแทนที่จะให้ กฟผ. ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐสร้างตามแผนเดิมซึ่งได้อนุมัติให้ กฟผ.จัดสร้างโรงไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติ 1,400 เมกะวัตต์ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อ พ.ศ. 2562 และ 2563 นั้น
ตนยืนยันว่า คณะรัฐมนตรีชุดนางสาวแพทองธาร ชินวัตร มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอให้ยุบเลิกการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและไปยกให้บริษัทเอกชนสร้างที่จังหวัดราชบุรี ตนมีความจำเป็นจะต้องยื่นเรื่องร้องเรียนให้สำนักงาน ป.ป.ช. สอบสวนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเฉพาะผู้ลงมติเห็นชอบในวันรุ่งขึ้นทันที เนื่องจากเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช. ในขณะนี้
ที่เดินทางมาวันนี้ เพื่อขอส่งรายชื่อประชาชน จำนวน 207 คน ที่คัดค้านการยกเลิกโรงไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมหนังสือสำนักงาน ป.ป.ช. ที่พนักงานไต่สวนและคณะอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อประกอบการพิจารณาตามกฎหมาย ป.ป.ช.
โดยนายวัชระยังกล่าวด้วยท่าทีขึงขังอีกว่า “หากคณะรัฐมนตรีอนุมัติเรื่องยกเลิกโรงไฟฟ้าพลังก๊าซธรรมชาติที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ รัฐมนตรีที่ลงมติเห็นชอบทุกท่านต้องร่วมรับผิดชอบด้วยเนื่องจากถือว่าได้บอกกล่าวให้ทราบล่วงหน้าแล้ว”