วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2567 พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ร.ท.ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล รองเสนาธิการทหารเรือ (สายงานยุทธการ) กองทัพเรือ พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร นายโชติพันธ์ จุลเพชร ผู้เชี่ยวชาญด้านการปราบปรามยาเสพติด สำนักปราบปรามยาเสพติด ร่วมด้วย น.อ.บรรพต นิธิณัฐอาภาศิริ รองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ และ น.อ.วิสูตร งิ้วแหลม รองผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองทัพอากาศ
ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 3 คน มีบทบาทเป็นผู้ลำเลียงยาเสพติด และผู้สั่งการ พร้อมเฮโรอีน 154 กิโลกรัม (440 แท่ง) ซุกซ่อนในช่องใต้เบาะนั่งรถตู้ เหตุเกิดที่ สถานีบริการน้ำมัน จ.ชัยนาท
พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ร่วมกับ ขกท. นสร. และ สห.ทอ. สืบสวนเครือข่ายการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ตรวจยึดไอซ์ 300 กก. ในพื้นที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี สืบสวนขยายผลผู้รับยาเสพติดปลายทางพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทราบว่ายาเสพติดเตรียมลำเลียงออกไปยังปลายทางประเทศที่สาม ตนจึงสั่งการไปยัง นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด ให้ติดตามขยายผลเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประสานและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเครือข่ายยาเสพติดกับหน่วยงานระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 21 ตุลาคม 2567 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. สืบสวนทราบว่า ขบวนการลำเลียงยาเสพติดใช้รถตู้นำเที่ยวซุกซ่อน ยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือมุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ภาคกลางจึงประสาน ปปส.ภ.7 สห.ทอ. นสร. และ ขกท. บูรณาการกำลังเพื่อปฏิบัติการสืบสวนติดตาม
กระทั่งวันที่ 22 ตุลาคม 2567 เวลาประมาณ 12.30 น. ชุดปฏิบัติการพบรถตู้เป้าหมายที่สถานีบริการน้ำมัน ในพื้นที่ จ.ชัยนาท จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น ผลการตรวจค้น พบเฮโรอีน 154 กิโลกรัม (440 แท่ง) พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 2 คน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลการสืบสวนกระทั่งสามารถจับกุมผู้สั่งการได้อีก 1 คนในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี พร้อมตรวจค้นที่พักอาศัยและโกดัง รวม 3 แห่ง ผลการตรวจค้น ไม่พบยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย ตรวจยึดทรัพย์สิน ได้แก่ เช่น รถยนต์ 10 คัน เงินสด ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ พระเครื่อง โฉนดที่ดิน รวมมูลค่าประมาณ 7.6 ล้านบาท
พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่า เฮโรอีนดังกล่าวเตรียมลำเลียงไปส่งให้บุคคลในเครือข่าย เพื่อดำเนินการส่งต่อไปยังประเทศที่สาม ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด พร้อมคณะ ได้เข้าร่วมประชุมกับกรมสอบสวน กระทรวงยุติธรรมไต้หวัน (Ministry of Justice, Investigation Bureau: MIB) เกี่ยวกับคดีที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดระหว่างประเทศไทย-ไต้หวัน ระหว่างวันที่ 21-24 ตุลาคม 2567 ณ ไต้หวัน โดยได้หารือเกี่ยวกับนักค้ายาเสพติดระหว่างประเทศที่มีความเคลื่อนไหว และแสวงหาแนวทางการปราบปรามกลุ่มนักค้ายาเสพติดร่วม โดยในที่ประชุมได้มีข้อมูลว่าเครือข่ายนักค้ายาเสพติดชาวไต้หวัน สั่งเฮโรอีนกว่า 100 กิโลกรัม จากไทยเตรียมลักลอบนำเข้าไต้หวัน ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2567 และสอดคล้องกับข้อมูลการจับกุมเฮโรอีนคดีดังกล่าว ถือเป็นการสกัดกั้นยาเสพติดก่อนที่จะถูกลักลอบส่งไปยังประเทศที่สาม โดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน
ในตอนท้าย เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวชื่นชมถึงการบูรณาการความร่วมมือในการทำงานร่วมกัน ทั้งหน่วยงานภายในประเทศ และหน่วยงานระหว่างประเทศ ที่มีการประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารร่วมกันอย่างใกล้ชิด จนก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในการสกัดกั้นการปราบปรามยาเสพติดพื้นที่ตอนใน ก่อนที่ยาเสพติดจะกระจายต่อไปยังประเทศที่สาม