หลังมีภาพออกมาว่า “น้องโปรด อัษศดิณย์” ลูกชายของดาราสาว “เป้ย ปานวาด” มีอาการป่วยจนต้องเข้ารับการผ่าตัด ทำเอาแฟนคลับรวมถึงหลายๆคนที่ติดตามภาพความน่ารักของครอบครัวนี้อดเป็นห่วงไม่ได้ ซึ่งล่าสุด แม่เป้ย ที่เริ่มสบายใจขึ้นแล้ว ก็ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก โปรด อัษศดิณย์ บุญยรัตกลิน เล่าถึงอาการป่วยของลูกชาย ความรู้สึกของคนเป็นแม่ รวมถึงขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ ที่อ่านแล้วหลายคนอาจน้ำตาซึม…
“โปรดออกจากโรงพยาบาลกลับมารักษาตัวที่บ้านเรียบร้อยแล้วนะคะ ขอบคุณทุกๆคนที่เป็นห่วงน้องถามไถ่ถึงอาการน้องกันเข้ามา น้องผ่าตัดต่อมอดีนอย์และทอนซิลค่ะ ช่วงแรกๆเป้ยและคุณป๊อปก็ไม่ได้คิดว่าจะผ่า เพราะได้ปรึกษาคุณหมอหลายท่านแล้วก็จะบอกว่าหายได้เองตอนโต เราก็เลยรักษาตามอาการเอา แต่โปรดเริ่มป่วยบ่อยขึ้น ถี่ติดกันจนภายใน 1 เดือนโปรดป่วยบ่อยถึง 4 ครั้ง เป้ยก็เริ่มศึกษาหาข้อมูล และก็ปรึกษาคุณหมอควบคู่
โดยปรกติต่อมอดีนอยด์และทอมซิลจะทำหน้าที่ดักจับเชื้อโรค แต่ถ้าเด็กที่มีโอกาสติดเชื้อบ่อย เป็นหวัด หรือเป็นภูมิแพ้ต่างๆ ก็จะทำให้2ต่อมนี้โต จากที่เป็นต่อมดักจับเชื้อโรคก็จะกลายเป็นต่อมที่เก็บเชื้อโรคแทน ต่อมยิ่งโตขึ้นเรื่อยๆ ก็จะยิ่งขวางทางเดินหายใจ หายใจเสียงดัง นอนกรน หยุดหายใจขณะนอนหลับ เมื่อร่างกายได้รับออกซิเจนน้อยก็จะทำให้ส่งผลถึงการทำงานของสมอง ส่วนในแง่ของร่างกาย หัวใจก็จะทำงานหนักขึ้น ทำให้มีอาการหัวใจวายเหมือนในกรณีเพื่อนของเพื่อนเป้ย เป้ยกับคุณป๊อปจึงได้ปรึกษาคุณหมอที่สนิทกันว่าอยากให้แนะนำคุณหมอที่เชี่ยวชาญทางด้านการผ่าตัดทางด้านนี้
ในวันที่เป้ยพาโปรดไปพบคุณหมอ และฟังผลเอ็กซเรย์ ในวันนั้นเป้ยยอมรับว่าเป็นวันที่เป้ยรู้สึกแย่มากๆคุณหมอแจ้งผลเอ็กซเรย์ว่าตอนนี้ต่อมทอมซิลของโปรดโตและโปรดมีช่องทางเดินหายใจเพียง 17% เท่านั้นจาก 100 % ซึ่งโดยปรกติทั่วไปถ้า 40% คุณหมอก็จะแนะนำให้ผ่าอยู่แล้ว ซึ่ง 17 นี่คือไม่ต้องพูดถึงเลย ใจของคนเป็นแม่ที่ได้ยินตอนนั้นบีบหัวใจเหลือเกิน เพราะไม่เคยคิดว่าลูกจะเป็นเยอะขนาดนี้ ป๊อปก็ได้แต่จับไหล่ คุยตลกเพื่อให้เป้ยไม่คิดมาก แต่เป้ยก็ทำไม่ได้เป้ยพยายามกลั้นน้ำตาตลอดเวลาที่อยู่กับโปรด มันเจ็บหัวใจ
ทั้งๆที่รู้ว่าสิ่งที่โปรดกำลังเป็นคุณหมอหรือใครๆก็พยายามบอกว่า ใครๆก็เป็น ใครๆก็ผ่า แต่สำหรับเป้ยหลังจากที่รู้เป้ยไม่เคยนอนหลับเต็มที่ซักคืนเลย ทุกๆคืนเป้ยจะต้องตื่นขึ้นมาวันละหลายๆรอบเพื่อที่จะดูว่าลูกเรายังหายใจดีอยู่มั้ย คอยจับเค้านอนตะแคงเพื่อให้เค้าหายใจได้สะดวกที่สุด เป้ยกอดเค้า หอมเค้าเป้ย บอกในใจตลอดเวลาว่าให้แม่เป็นแทนได้มั้ย ยอมรับว่ากลัวไปหมดทุกๆอย่าง กลัวว่าเค้าจะเป็นอะไร เป้ยยอมรับตรงๆว่าเป้ยกลัวที่จะเสียเค้าไป
จนมาถึงวันที่โปรดต้องเข้าห้องผ่าตัด 6 โมงเช้าพยาบาลนำยานอนหลับให้โปรดทานเพื่อที่โปรดจะได้สะลึมสะลือแต่ปรากฏว่าโปรดไม่หลับ และไม่มีวี่แววว่าจะง่วง คอยถามโน้นถามนี่ด้วยความสงสัยตลอดระหว่างทางที่พาไปห้องผ่าตัด จนเข้าห้องโปรดสงสัยว่าทำไมมีหมอเยอะจัง ทำไมมาห้องแบบนี้ ทำไมมีเตียงนอน ทำไมมีไฟใหญ่ๆอยู่ข้างบน โปรดเริ่มกังวล จากที่ติดแม่อยู่แล้ว โปรดยิ่งกังวลมากขึ้น จับแขนเป้ยแน่นขึ้น ไม่ยอมให้คุณหมอดมยา จนต้องเป็นเป้ยที่ช่วยจับตัวหน้ากาก และมีคุณหมอคอยดูประกบอยู่ข้างๆ โปรดนอนบนแขนข้างซ้ายของเป้ยและมือข้างขวาเป้ยต้องจับหน้ากากเพื่อที่จะดมยาให้โปรดหลับวินาทีนั้นเหมือนใจจะขาดเป็นเสี่ยงๆ โปรดค่อยๆหลับไป มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ทั้งกลัวและทั้งเจ็บปวดที่สุดสำหรับคนเป็นแม่ เป้ยได้แต่บอกคุณหมอว่าฝากโปรดด้วยนะคะ ช่วยโปรดด้วยนะคะ
ตลอดเวลา 2 ชม.ที่ลูกอยู่ในห้องผ่าตัด ช่างเป็นเวลาที่โหดร้ายสำหรับเป้ยและป๊อปมากๆ เป้ยได้แต่กอดตุ๊กตาของโปรด จากตุ๊กตาอะไรก็ไม่รู้ที่เป้ยไม่เคยชอบมันเลย แต่โปรดเค้ารักของเค้ามาก เอาติดตัวไปทุกๆที่ เป้ยมีแค่ตุ๊กตาตัวนี้ที่เป็นตัวแทนโปรด เป้ยได้แต่กอดและหอมมันตลอดเวลาภาวนาขอให้ทุกๆอย่างผ่านไปด้วยดี…ทุกวันนี้โปรดดีขึ้น ไม่เจ็บแผล ทานได้ดีขึ้น ร่าเริง แต่ยังคงต้องจับมือแม่ให้แม่อยู่ข้างๆเค้าเวลานอนทุกๆคืน
ขอบคุณทุกๆข้อความสำหรับคำอวยพร ให้กำลังใจ ที่รักโปรดและเอ็นดูโปรดขอบคุณคุณหมอทุกๆท่านที่ทั้งให้คำปรึกษาและช่วยรักษาโปรด ดูแลโปรด ขอบคุณทุกๆคนที่อยู่รอบข้างในช่วงนั้น ขอบคุณมากๆค่ะ”