ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน
วันที่ 17 ตุลาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย,พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก สส.บช.น.,พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น.,พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง และ พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์,ร.ต.อ.พงศธร อารีย์ รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น.,ด.ต.ประเทศ ช่อลำเจียก,จ.ส.ต.ภานุพงศ์ เวฬุวนารักษ์, จ.ส.ต.อวิรุทธ์ เนียมบุญเจือ,จ.ส.ต.นิติสิทธิ์ โชติคุต,ส.ต.อ.พลภัทร ปรีชา ผบ.หมู่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ชุดปฏิบัติการที่ 3
ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายปัณณทัต อายุ 48 ปี ภูมิลำเนา ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานีตามหมายจับ ศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1370/2567 ลงวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม,พาเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเพื่ออนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม,โดยปราศจากเหตุอันสมควรพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร” โดยจับกุม บริเวณหน้าบ้าน หมู่ที่ 2 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
พฤติการณ์ ผู้เสียหายพร้อมบุตรสาวมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายปัญหัต กล่าวคือ ช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2567 บุตรสาว ได้รู้จักกับ นายปัณณฑัตฯ และพูดคุยผ่านแอปฯเฟซบุ๊กตามวันเวลาเกิดเหตุ ได้นัดเจอกันที่เกิดเหตุ นายปัณณทัตฯ ได้จับมือ และหอมแก้ม เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี หลังจับกุมผู้ต้องหาให้การว่า ตนรู้จักกับตาของเด็กหญิงผู้เสียหายตอนไปเที่ยวกางเต็นท์ในป่าที่ต่างจังหวัด หลังจากนั้นตน และเด็กหญิงผู้เสียหายได้แอด Facebook เป็นเพื่อนกัน จากนั้นได้มีการคุยแชท โดยเด็กหญิงนับถือตนเป็นลุง วันเกิดเหตุตนประกอบอาชีพขับแกร็ปคาร์ไปส่งลูกค้าที่บริเวณโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งที่เด็กหญิงผู้เสียหายศึกษาอยู่ ตนจึงทักแชทไปหาเด็กหญิงผู้เสียหายและออกอุบายรับเด็กหญิงไปส่งที่บ้านหลังเลิกเรียน เมื่อใกล้ถึงบ้านของเด็กหญิงผู้เสียหาย ตนจึงกอดและหอมแก้มเด็กหญิงผู้เสียหายบริเวณปากทางเข้าบ้านพักของเด็กหญิงดังกล่าว เด็กหญิงผู้เสียหายเกิดอาการตกใจจึงปรึกษากับทางผู้ปกครองและผู้ปกครองจึงไปพบพนักงานสอบสวน สน.โคกครามเพื่อดำเนินคดีกับตัวผู้ต้องหาต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ฝากเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ขอให้หมั่นสังเกตสอดส่องพฤติกรรมของบุตรหลานอยู่เสมอ ส่วนผู้ต้องหาที่กระทำอนาจาร อ้างเด็กยินยอม ก็ไม่อาจพ้นผิด ”พรากผู้เยาว์” การพรากเด็กอายุกว่า 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี ไปจากบิดามารดา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหากำไร หรือเพื่อกระทำอนาจาร ไม่ว่าจะเป็น การพาเด็กมาเพื่อหลับนอนด้วย หรือการจ้างให้มาถ่ายคลิปวิดีโอโป๊เปื่อย แม้เด็กจะยินยอม ก็ถือเป็นความผิดฐาน พรากผู้เยาว์ ตาม ป.อาญา ม.319 โดยจะต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-10 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000-200,000 บาท