วันที่ 1 ตุลาคม 256 ที่ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย ข้าราชการตุลาการ อัยการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน พนักงานรัฐวิสาหกิจ สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมพิธี เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงเป็นวีรกษัตริย์ผู้มีพระปรีชาสามารถในการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง และประเพณีอันล้าสมัย ให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และวัฒนธรรมครั้งแรกของประเทศ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พุทธศักราช 2347 ณ พระราชวังเดิม กรุงธนบุรี เป็นพระราชโอรส ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และสมเด็จพระศรีสุริเยนทรา บรมราชินี ทรงเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งมหาจักรีวงศ์ เมื่อวันที่ 2 เมษายน พุทธศักราช 2394 ขณะนั้นพระชนมายุ 47 พรรษาและเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พุทธศักราช 2411 สิริพระชนมพรรษาได้ 64 พรรษา นับเป็นเวลาที่ทรงปกครองสยามประเทศได้ 17 ปี พระองค์ทรงเป็นวีรกษัตริย์ ที่ทรงพระปรีชาสามารถอีกพระองค์หนึ่ง ทรงเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง และประเพณีอันล้าสมัย เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมครั้งแรกของประเทศ ทรงใช้พระบรมราโชบาย ผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน ดังที่ทรงมีพระราชดำรัสว่า “อย่าติดของเก่า อย่าตื่นของใหม่ จงคิดหาดีในของเก่าและของใหม่” ทรงมีพระราชกรณียกิจที่สำคัญ ได้แก่ ทรงแก้ไขธรรมเนียมข้าราชการเข้าเฝ้าให้สวมเสื้อเช่นประเทศตะวันตก ทรงทำสัญญาทางพระราชไมตรีและการต่างประเทศกับชาติตะวันตก (สนธิสัญญาเบาว์ริง) ทรงนำสยามรอดพ้นจากการตกเป็นอาณานิคมของตะวันตก ทรงสนพระทัยเรียนรู้ภาษาตะวันตกและวิชาการของตะวันตก เช่น วิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง ได้อย่างแม่นยำที่ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2411 องค์การยูเนสโกได้ยกย่องพระองค์เป็นบุคคลสำคัญของโลก ที่มีพระอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์ ปวงชนชาวไทยพร้อมกันถวายพระราชสมัญญานาม “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” ทรงครองราชย์ด้วยทศพิธราชธรรมและพระปรีชาสามารถอย่างล้ำเลิศ ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่หลายประการ อันเป็นพระราชดำริ ริเริ่มที่บังเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และเป็นประโยชน์สุขต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างยิ่ง สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ