วันที่ 24 กันยายน 2567 วุฒิสภา
พลเอกสวัสดิ์ ทัศนา วุฒิสภา กลุ่ม 1 การบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง ได้รับเลือกจากที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ ให้นั่งเป็นประธานกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ไร้คู่แข่งถือว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ในการพัฒนาและดูแล ในส่วนของ การทหารและความมั่นคง
ส่วน ว่าที่ พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ สมาชิกวุฒิสภา กลุ่ม 18 สายสื่อสารมวลชนฯ อดีตนายกสมาคมศิษย์เก่านักศึกษาวิชาทหาร ได้รับความไว้วางใจ ให้นั่งเป็นรองประธานกรรมาธิการการทหารและความมั่นคง (5) เพื่อผลักดันระบบกำลังพลสำรองให้มี ประสิทธิภาพและสามารถ นำมาใช้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในยามเกิดภัยพิบัติ ให้เข้าถึงการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ได้ทันอย่างท่วงที เป็นการทำงานแบบต่อยอด จากการที่เคยเป็น ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมธิการ ร่างพระราชบัญญัติกำลังพลสำรอง 2558 (สนช.) ซึ่งจะเป็นการติดตาม การทำงานตลอดระยะเวลา 30 กว่าปี ให้มีการเรียกใช้กำลังพลสำรอง อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น พร้อมกำหนดสิทธิ์ ขอบเขต หน้าที่ และเป็นระบบมากขึ้น ในการที่จะระดมสรรพกำลัง ส่วนนี้ให้มีการใช้งานได้จริง มีหน้าที่ช่วยเหลือภัยพิบัติให้แก่พี่น้องประชาชนได้ทันอย่างท่วงที ลดกำลังพลหลัก ให้เหลือ 60/40 ทดแทนด้วยกำลังพลสำรองลงในส่วนงานต่างๆ ในกองทัพ ทั้ง กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ
แผนการเตรียมนำเสนอระบบกำลังสำรองแบบสหรัฐอเมกา Reserve Officers’ Training Corps (ROTC) นำมาใช้
มีแผน สร้าง ความมีวินัย ให้แก่เยาวชน ให้ มีความรัก ใน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นพลเมืองของประเทศไทย ที่มีประสิทธิภาพ มีระเบียบมีวินัย มีแผนและเป้าหมายในการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพ
มีแผนในการดูแลทหารกล้า ทหารผ่านศึก การช่วยเหลือ ทหารผ่านศึกที่เคยปฏิบัติหน้าที่ให้มี สวัสดิการ ฯลฯ
ส่วนคณะกรรมาธิการท่านอื่นๆ ก็เป็นบุคคล ผู้มีความรู้ความสามารถ ที่จะเข้าทำงานรับใช้ประเทศชาติ ในการพัฒนาอย่างเต็มความสามารถ ถือว่าเป็นคณะกรรมาธิการคณะทำงานที่มีประสิทธิภาพคณะหนึ่ง ของวุฒิสภา