วันที่ 19 กันยายน 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี (สนง.กกต.จว.ปทุมธานี) ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี นายชณัฐ รานุรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการลูกปทุมต้นแบบต้านโกง เปิดเผยว่า ได้มอบหลักฐานคลิปวีดีโอ 2 คลิป จากกล้องวีดีโอ 2 ตัว ให้ กกต.ตรวจสอบเกี่ยวกับการหาเสียง
เนื่องจากภายในคลิปมีภาพขบวนรถขยายเสียงผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีรายนึงที่ โฆษกได้มีคำพูด อ้างว่าตัวเองคือนักการเมืองมาช่วยหาเสียงด้วยคำพูดว่า “ฝากพี่น้องประชาชน ชาวหมู่บ้านจุฑาภัทร ที่เคารพรักทุกท่าน ผมอดีต ส.ส….. หรือ อดีต ส.ส. ….ในนามของพรรค…. วันนี้ทนดูไม่ได้ ที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกใส่ร้ายป้ายสี ผมขอบอกพี่น้องชาวหมู่บ้านจุฑาภัทรเลยว่า ไม่เป็นความจริงเลยว่านายชาญ พวงเพ็รช์ ขาดคุณสมบัติ ”เป็นต้นซึ่งถ้าเป็นนักการเมืองจริงนักการเมืองจะต้องแจ้งชื่อไว้ที่ กกต.ปทุมธานีถึงจะสามารถเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ จึงมอบหลักฐานให้ คณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดปทุมธานี การตรวจสอบว่าโฆษกในคลิป ที่อ้างตัวว่าเป็นนักการเมืองอยู่พรรคการเมืองใหญ่ ตัวจริงหรือไม่และได้ยื่นขอเป็นผู้ช่วยหาเสียงหรือเปล่ากรณี…เป็นผู้ช่วยหาเสียงโดยไม่แจ้ง กกต.ตาม ม.66 บทลงโทษ ตาม ม.129 (2) ฝาฝืน ม.66 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและถ้าหากถูกลงโทษตาม ม.129 จะเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ตาม(8)ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำผิดตาม พ.ร.บ.นี้ ไม่ว่าจะได้รับโทษหรือไม่ โดยได้พ้นโทษหรือต้องคำพิพากษามายังไม่ถึงห้าปีนับถึงวันเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ขบวนรถหาเสียงคันดังกล่าวมีลักษณะเดียวกันกับขบวนรถที่ไปเรียกประชาชนมารับซองปริศนาอีกทั่งเวลาก็ใกล้เคียงกันขณะนี้มีคลิปที่ประชาชนและสมาชิกต้านโกงส่งเข้ามาหลายคลิป ทั้งคลิปซื้อเสียงและคลิปที่แจ้งว่าอาจเป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยบางหน่วยวางแผนช่วยเหลือผู้สมัครบางคนกำลังตรวจสอบความถูกต้องเพื่อรวบร่วมหลักฐานส่ง กกต.ปทุมธานีต่อไป
จากกรณีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 เลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีอาญาทุจริตที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานี ต้องหาว่าทุจริตในการจัดซื้อจัดซื้อถุงยังชีพในปี 2554 ขณะที่เกิดอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ในจังหวัดปทุมธานี โดยวันที่ 17 กันยายน 2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ได้นัดฟังคำพิพากษา แต่ปรากฏว่าฝ่ายผู้ต้องหามารับฟังคำพิพากษาไม่ครบ โดยอ้างว่าผู้ต้องหาที่ 3 นายเดชา พวงงาม อดีต ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ป่วยไม่สามารถมาฟังคำพิพากษาได้ ศาลไม่เชื่อ อาการป่วยไม่น่าจะรุนแรงถึงขั้นมาศาลไม่ได้วิเคราะห์ว่าจงใจหลบหนี ศาลจึงออกหมายจับ โดยศาลเลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีดังกล่าวในวันที่ 24 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00 น.
ส่วนการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 กันยายน 2567 ที่จะถึงนี้ ถึงแม้ว่านายชาญ พวงเพ็ชร์จะเป็นผู้ชนะหรือไหม ตามความเห็นของ เลขากฤษฎีกา เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ได้ยืนยันว่าต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่อัตโนมัติ หลังนั่งนายกฯอบจ.ปทุมฯ อยู่ดี.
ภาพ/ข่าว สมาคมนักข่าวปทุมธานี