วันที่ 18 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.30น.ของวันที่ 17 ก.ย.2567 ที่ผ่านมา ขณะที่ ร.ต.อ.พิเชต จันทร์เทศ พนักงานสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่ ร้อยเวร สภ.ดงขุย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งว่ามีผู้ประสบอุบัติเหตุขี่รถจักรยานยนต์พลัดตกฝายน้ำล้นในพื้นที่หมู่ 7 ต.ลาดแค และจมหายไปในน้ำจึงประสานไปยังกำนัน ต.ลาดแค นายก อบต.ลาดแค ชุดนักประดาน้ำของทีมกู้ภัยชนแดนสงเคราะห์และทีมป่อเต็กตึงจังหวัดพิจิตร และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู เพื่อช่วยค้นหา จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบ พบว่าฝ่ายดังกล่าวเป็นฝายน้ำล้นขนาดใหญ่ และมีกระแสน้ำที่ไหลผ่านค่อนข้างรุ่นแรง เนื่องจากมีฝนตกและน้ำป่าจากภูเขาไหลลงสู่คลองดังกล่าวตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจาก อบต.ลาดแค และชาวบ้านกว่า 40 คน ได้ใช้ไม้ไผ่ช่วยกันค้นหาในบริเวณใต้ฝายที่มีความลึกประมาณ 4 เมตร แต่ไม่สามารถดำลงไปได้เนื่องจากใต้น้ำมีกระแสน้ำที่รุนแรง จึงต้องใช้ชุดประดาน้ำกู้ภัยชนแดนสงเคราะห์และทีมป่อเต็กตึงจังหวัดพิจิตรลงทำการค้นหา กระทั่งเวลา 23.45 น.จึงพบร่างของผู้เสียชีวิตจมอยู่ใต้น้ำที่ความลึกประมาณ 3.5 เมตจ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตรจึงนำร่างขึ้นมาชันสูตรพลิกศพทราบชื่อต่อมาคือ นายวิทยากร โมจุ้ย อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 10 ต.ลาดแค อ.ชนแดน
นายพล บุญเมฆ อายุ 56 ปี ชาวบ้านที่ผ่านมาพบเหตุการณ์เป็นคนแรกเปิดเผยว่าตนไปทำงานในไร่อ้อยตามปกติ เมื่อเลิกงานได้เดินผ่านฝายดังกล่าวและเห็นรถจักรยานยนต์ล้มอยู่กลางฝาย และมีรองเท้าแตะลอยอยู่ใกล้ๆ จึงคาดว่าน่าจะมีคนเกิดอุบัติเหตุตกลงไปในฝายอย่างแน่นอน จึงได้โทรศัพท์แจ้งกำนันเพื่อให้มาตรวจสอบ
ด้านกำนัน ต.ลาดแคเปิดเผยว่านายวิทยากรเป็นคนในพื้นที่หมู่ 10 ต.ลาดแค ขากลับจากที่ไปส่งแม่คาดว่าน่าจะมาใช้เส้นทางนี้ซึ่งเป็นทางลัด เมื่อผ่านฝายดังกล่าวที่ค่อนข้างลื่นเนื่องจากมีตะใคร่น้ำจับ หลังจากได้รับแจ้งตนจึงรีบมาดูพบเพียงรถจักรยานยนต์ล้มอยู่บนฝาย จึงได้ระดมชาวบ้านมาช่วยกันค้นหา รวมทั้งชุดประดาน้ำของกู้ภัย กระทั่งพบศพอยู่ห่างจากจุดรถล้มประมาณ 100เมตร
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายวิทยากร ผู้เสียชีวิตได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งแม่ที่บ้านพี่สาวเนื่องช่วงกลางวันแม่ได้เดินทางมาเยี่ยมที่บ้าน กระทั่งช่วงเย็นจึงขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งที่บ้านพี่สาวซึ่งขาไปส่งก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แต่ขากลับนายวิทยากรได้เปลี่ยนเส้นทางมาทางนี้เนื่องจากเป็นทางลัด และเมื่อขี่ จยย.มาถึงจุดเกิดเหตุคาดว่าด้วยความแรงของน้ำประกอบกับพื้นผิวของฝายน้ำล้นมะตะใคร่จับจึงทำให้ลื่นรถล้ม ตัวของนายวิทยากรได้ลื่นไถลลงไปใต้ฝายซึ่งมีกระแสน้ำที่รุนแรง จึงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเอง จึงจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย จึงได้มอบร่างของผู้เสียชีวิตให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
มนตรี นรดี