สถานที่ราชการก็ใช้ว่าจะปลอดภัยหลังสาวอัยการจังหวัดลพบุรีหลังถูกหนุ่มโรคจิตมาประชิดถึงตัว ขณะตัวเองขับรถเข้าศาลากลางจะเข้าที่จอดรถและนั่งอยู่ในรถแท้ๆแต่ไม่ปลอดภัย
ขณะเข้าไปที่ห้องทำงานสำนักงานอัยการ อยู่ในบริเวณชั้นหนึ่งของศาลากลางจังหวัดลพบุรี
แต่จับใครไม่ได้ เหตุกล้องวงจร
ชี้สถานที่ราชการยังไม่ปลอดภัย จี้ผู้ว่าฯลพบุรี
เร่งพัฒนาฝ่ายรักษาความปลอดภัย
สาวอัยการจังหวัดลพบุุรี โทรหาเพื่อนในสำนักงานออกมาช่วยเหลือ โรคจิตก็เดินหนีออกไปตาเฉย
สถานที่ราชการใคร ๆ ก็ต้องคิดว่า มีความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้ที่มาใช้บริการ โดยเฉพาะศาลากลางจังหวัดที่ได้ชื่อว่า เป็นสถานที่ราชการสำคัญสูงสุดของจังหวัด และยังเป็นสถานที่ทำงานของพ่อเมืองนั้น ๆ อีกด้วย แต่กลับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ คงให้หลายคนต้องเปลี่ยนความคิด
รักษาความปลอดภัยหลักหลวม แต่จับใครไม่ได้ไร้วี่แวว
เกิดเหตุภัยใกล้ตัวเมื่อตอนเช้าวันนี้ ช่วงเวลา 7:00 น ในเช้าวันพุธที่ 11 กันยายน 2567
สาวอัยการจังหวัดลพบุรี ถูกโรคจิตคุกคามประชิดถึงตัว ทำให้ไม่ปลอดภัยในทรัพย์สิน บอกเรื่องราวเตือนภัยว่า เพื่อนผู้หญิงของเขาที่ทำงานด้วยกันในศูนย์ราชการจังหวัดลพบุรี หรือศาลากลางจังหวัดลพบุรี ถูกคนร้ายโรคจิตเดินมาประชิดตัวจะเปิดประตูรถตนเองรีบล็อคประตูและโทรบอกเพื่อนในสำนักงานอัยการจังหวัดลพบุรีให้มาช่วย สาวคนดังกล่าวสั่นไปทั้งตัวตกใจสุดขีดไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้
บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดลพบุรี ข้างหลังอนุสาวรีย์สมเด็จพระปิยะมหาราชหรือรัชกาลที่ 5 ซึ่งหลังจากที่
แต่ไม่พบตัวคนก่อเหตุ และขอดูภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิด แต่กลับพบว่ากล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ไม่สามารถใช้งานได้ แต่ตนเองได้ถ่ายภาพนิ่งเอาไว้ที่อยู่บนรถของตนเอง
สาวอัยการจังหวัดลพบุรี ได้เปิดเผยกับผู้สืีอข่าวเสียงสั่น ฝันกระเจิง ได้เปิดเผยตอนหนึ่งว่า
แจ้งเตือนภัย!!!!!!
มีบุคคล. (ผู้ชาย) มีบุคลิก แปลกๆ. และผิดปกติ.
มายืนจ้อง + ดึงประตูรถยนต์
เจ้าหน้าที่ผู้หญิง. บริเวณที่จอดรถหน้าศาลากลางจังหวัดลพบุรี หลังเก่า. โดยมีลักษณะคุกคาม. ไม่ถอยหนี. เหตุเกิด. เช้าวันนี้
ในศาลากลางจังหวัดลพบุรี
เป็นผู้ชายคนนี้. ขี่มอเตอร์ไซต์เก่าๆ. วนดู. จ้องหาเหยื่อ.
เน้นเฉพาะผู้หญิง.
ขอให้ระวังภัยด้วยค่ะ
สาวอัยการจังหวัดลพบุรีได้เล่าเหตุการณ์หวังว่า
ตนเองตกใจเจอเหตุการณ์แบบนี้ไม่ปลอดภัยทรัพย์สินของตัวเองเลย ที่นี่เป็นสถานที่ราชการไม่ปลอดภัยแล้วและที่อื่นจะปลอดภัยได้อย่างไร
สาวอัยการจังหวัดลพบุรีเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
ตนเองต้องโทรให้. น้องผู้ชาย.
ใน. สนง.อัยการ. วิ่งไปที่รถ
เพื่อช่วยไล่/ถามว่าต้องการอะไร
และมีพยาน. เห็นหลายคน
ผู้สงสัย. ตอบคนว่า.
แค่ยืนคุยเฉยๆแล้วรีบขี่มอเตอร์ไซต์
วนรอบวงเวียนอนุสาวรีย์สมเด็จพระปิยะมหาราชรัชกาลที่ 5
ออกไปค่ะ
เหตุการณ์นี้เหตุการณ์ที่น่าตกใจค่ะไม่เคยเจอมาก่อนเป็นครั้งแรกที่เจอแบบนี้ค่ะ
น้องหญิง หรือน.ส.มณทยา พินิจสิทธิธรรม นิติกรปฏิบัติการสำนักงานอัยการจังหวัดลพบุรี ได้เล่าเหตุการณ์โรคจิตให้กับผู้สาวฟัง ว่า
ตนเองขับรถออกมาจากบ้าน จะมาทำงานที่ศาลากลางจังหวัดลพบุรี เป็นประจำทุกวัน
ซึ่งสถานที่เกิดเหตุเป็นสถานที่จอดรถของศาลากลางจังหวัดลพบุรี .
ซึ่งตนเองได้จอดรถยนต์ ในบริเวณดังกล่าวเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว และไม่เคยเกิดเหตุอะไรแต่มาวันนี้
มีผู้ชายได้ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนรถ
ได้ขับรถหาวนรถของเรา ตอนที่เราจอดรถ ยังไม่ดับเครื่อง และสตาร์ทรถอยู่ ผู้ชายคนดังกล่าวเขาขี่รถมามาจากข้างหลัง
มารอบหนึ่งก่อน
และเขาก็หายไปพักหนึ่ง
เขาเดินมาจากข้างหลังรถ
เขายืนอยู่ตรง ข้ามประตูคนขับ
ไม่ใช่ค่ะข้างประตูข้างหน้ารถค่ะ
เขายืนดูก่อนรถสตาร์ทอยู่เขาก็ชะโงกหน้า เขาพ่อกระชากประตูฝั่งคนนั่งกับคนขับ
กระชากประตูหลายครั้งแต่เปิดไม่ออก
เพราะรถของดิฉันบล็อกอยู่
เขาก็เข้ามาข้างในไม่ได้
เขาก็ยืนอยู่จุดเดิม ยืนตรงกำมือยืนจ้องหน้าเราอยู่
แต่ไม่เคยเห็นหน้าไม่เคยรู้จักมาก่อน
รูปลักษณ์ของคนร้ายใส่แว่นตาดำ เอาผ้าโพกหน้า
และใส่หมวก ใส่เสื้อแขนยาวกางเกงขายาว รูปร่างผอม ผิวสองสี
ดูรูปน่าสงสัยและน่ากลัว
เรามีสติเราไม่กล้าเปิดกระจกถามเขากลัวอันตราย
ตอนแรกคิดว่ารถของเราไปชนรถของเขาหรือเปล่า
หรือเขาตามมาเรียกค่าเสียหาย
เขาดูน่ากลัวมาก
ไม่ลดกระจกลง
สักพักหนึ่งเขาก็ยืน เขาก็เปิดหน้าของเขา
ถอดหมวกถอดแว่น เปิดหน้าหมดเลย
เราทำอะไรไม่ถูก
เราก็โทรหา ที่ทำงาน ให้น้องลงมาช่วยหน่อย
ที่จอดรถอยู่ติดกับสำนักงานอัยการเลย
น้อง 2 คนเป็นผู้ชายก็ออกมาช่วยเหลือ
แต่เขาก็ยืนอยู่นะ
น้องผู้ชายก็เดินไปถามถามเขาทำอะไร
ไม่มีอะไรมาคุยเฉยๆ
น้องคนนั้นก็ถามรถกระบะของพี่หรอ เขาเดินออกไปเลยแต่เขาไม่ตอบอะไรเอารถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ขี่ออกไปเลย
ประมาณนี้ค่ะ
น้องหญิง หรือ น.ส.มณทยา พินิจสิทธิธรรม
ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเตือนภัย
ที่คิด ว่า เขาไม่มาตรงประตูที่เราขับมาฝั่งตรงประตูที่ไม่มีคนนั่งดีนะรถเราล็อคประตูอยู่ คิดดูดีๆไม่เยาะล็อคประตูจะเกิดอะไรขึ้น สมุดประตูไม่ได้ล็อคเขาก็มานั่งจะมาข่มขู่คิดไม่ดีมีหลายต่อเราจะข่มกูจะเอาเงินเราหรือจี้ชิงรถก็ได้
เราก็ ไม่รู้เลย เรามีอาวุธหรือเปล่าเพราะเขาใส่เสื้อมิดชิด คิดมานั่งที่รถแน่ บอกอีกทีก็จำได้ เขาขี่รถบนไปมาหารถซึ่งเป็นผู้หญิงที่มาคนเดียว คันสตาร์ทรถอยู่คิดมีคนขับอยู่รถไม่ล็อค ซึ่งเป็นภัยใกล้ตัว ก็ประมาณนั้นค่ะ
ขอเตือนภัยกับผู้หญิงที่ขับรถมาคนเดียว เพราะสมัยนี้อันตรายมากค่ะ โจรมาทุกรูปแบบเลยค่ะ เพราะสถานที่ข้าราชการปลอดภัยจริงไม่ปลอดภัยเลยค่ะ
ช่วงมิจฉาชีพ มันเยอะมากค่ะ รถของหนูติดฟิล์มค่ะ เขาเห็นเรานะ
แสงมันส่องเข้ามาก็เห็นค่ะ
ตอนนี้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลพบุรีแล้วค่ะ
แต่ร้อยเวรได้บอกว่าจะแจ้งสายตรวจให้มาตรวจตาที่ระเวดังกล่าว
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ ศาลากลางจังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นอาคารศาลาการหลังเก่า
อยู่ด้านหลัง อนุสาวรีย์สมเด็จพระปิยะมหาราชรัชกาลที่ 5 ในบริเวณดังกล่าวเป็นสถานที่จอดรถ ของบรรดาข้าราชการที่มาทำงานอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมากมีทั้งภาและหญิง เมื่อก่อนไม่มีเหตุ ร้ายอะไรก็ปลอดภัยที่สุดในที่ดังกล่าวแต่มาปัจจุบันนี้ไม่ปลอดภัยซะแล้วเพราะมีโรคจิตขี่รถจักรยานยนต์มา ดำๆมองๆข้าราชการที่เป็นผู้หญิง มีโอกาสก็รุมรามหรือทำร้าย
ตรวจสอบข้อเท็จจริงและไปดู
จากที่เกิดเหตุ ในบริเวณดังกล่าวไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำให้เป็น สถานที่เปลี่ยวห่างตาเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยเพราะจุดดังกล่าวเป็นสถานที่จอดรถของข้าราชการและคนมาติดต่อข้าราชการื
ดังนั้นจึงไม่รู้จะทำอย่างไร เบื้องต้นได้แจ้งหัวหน้างานของตนเองไปแล้ว
ดังนั้นจึงไม่รู้จะทำอย่างไร เบื้องต้นได้แจ้งหัวหน้างานของตนเองไปแล้ว
ขณะที่หญิงสาวเพื่อนของผู้เสียหายกล่าวว่า หลังเกิดเหตุทำให้เพื่อนสาวของเธออยู่ในอาการหวาดผวา ไม่กล้าไปหน้าศาลากลางหลังเก่าคนเดียว รวมถึงตัวเธอและผู้หญิงคนอื่น ๆ ด้วย ดังนั้นจึงต้องการให้ทางศูนย์ราชการมีระบบความปลอดภัยที่ดีกว่านี้ และเร่งไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดี
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ