เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 9 ก.ย. พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล, พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร พ.ต.ท.กรกฎ โปชยะวณิช พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ พ.ต.อ.อาวุธ อุดมรัตน์ พ.ต.อ.อภิฌานสวัสดิบุตร พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ รอง ผบก.สปพ. โดย พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ พ.ต.ท.ศตวรรษ คนชุม รอง ผกก.สายตรวจฯ พ.ต.ต.ณัฐดนัย บำรุงศรี สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ ได้ร่วมกัน จับกุมตัว นายแนน (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี นางวรรณนิภา(สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี แบะ นางสาวจิตต์ระวี หรือ ปู (สงวนนามสกุล อายุ 29 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 600,000 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 45 กิโลกรัม รถยนต์ จำนวน 2 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง โดยจับกุมได้บริเวณบ้านหลังหนึ่งใน ต.ท่าอิฐอ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ต่อเนื่อง บ้านลังที่สอง ในซอยลาดพร้าว 101 ซอย 42 แยก 8 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก วันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา เจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ ได้ทำการขยายผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติด และทำการสืบสวนหาข่าวการกระทำความผิดเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบถึงแหล่งขบวนการลักลอบขนยาเสพติดรายใหญ่ โดยจะมีการขนมาจำหน่ายให้กับวัยรุ่นหรือบุคคลทั่วไปย่านลาดพร้าว เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 จึงได้รายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ
พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ. จึงได้สั่งการให้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าน.ส.ปู (นามสมมุติ) จะทำการขนลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จ.ปทุมธานี เข้ามาในพื้นที่ชั้นในกรุงเทพฯ โดยจะมีรถนำทางในการตรวจสอบดูเส้นทาง ขับดูว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณใดบ้าง โดยมีนายบอม (นามสมมุติ) เป็นคนขับ และมีน.ส.เมย์ (นามสมมุติ) โดยสารมาด้วยทุกครั้ง
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามมาตลอดเส้นทางจนกระทั่งขบวนขนยาเสพติดมาถึงบริเวณบ้านหบังหนี่งใน ต.ท่าอิฐ อ.ปากเก็ด จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น พร้อมจับกุมตัวน.ส.จิตต์ระวี จากการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 600,000 เม็ด และยาไอซ์จำนวน 45 กิโลกรัม ซึ่งมีมูลค่ากว่า 9,000,000 บาท ซุกซ่อนอยู่ภายในรถ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดได้ ติดตามจับกุมนายแนน และนางวรรณนิภา ซึ่งทำหน้าที่ขับรถนำทางได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ซ.ลาดพร้าว 101 ซ.42 แยก 8 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.
จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งหมดให้การ รับสารภาพว่าในแต่ละครั้งที่ลักลอบขนยาเสพติดนั้นจะได้ค่าจ้างครั้งละประมาณ 50,000 – 100,000 บาท ส่วนรถนำทางจะได้ค่าจ้างครั้งละ 15,000 – 30,000 บาท เมื่อขนยาเสพติดมาพักเก็บไว้แล้ว หัวหน้าผู้สั่งการจะแจ้งให้นำยาเสพติดไปส่งให้กับลูกค้าตามจุดต่างๆ เมื่อยาเสพติดที่ลักลอบขนมาหมด ก็จะไปรับยาเสพติดมาอีกครั้งซึ่งทางผู้สั่งการจะแจ้งให้ไปรับที่ไหนซึางส่วนใหญ่จะอยู่ตามเขตปริมณฑล รอยต่อ กทม. ทำงานแล้วประมาณ 4 – 5 ครั้ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนหัวหน้าผู้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป