ทหารจาก ม.พัน28 พร้อม จนท.สารวัตรเกษตร เข้าตรวจค้นโกดังไม่มีเลขที่และบริษัทแห่งหนึ่ง ใน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ภายหลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนว่าเป็นแหล่งผลิตยาฆ่าหญ้าปลอม พบยาฆ่าหญ้าปลอมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท…
เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2560 พันโท เกียรติอุดม นาดี ผบ.ม.พัน28 ค่ายพ่อขุนบางกลางหาว พร้อมด้วยกำลังทหารจากม.พัน 28 ร่วมกับนายเสกสรร วรรณกรี ผอ.กลุ่มควบคุมตาม พ.ร.บ.สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 พิษณุโลก กรมวิชาการเกษตร นายพิจิตร ศรีปินตา เจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตรสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขต2 และนายกฤษณะ ศรีนวล อายุ 28 ปี ตัวแทนบริษัทสหพันธ์ส่งเสริมการเกษตรจำกัด ผู้แทนจำหน่ายยาฆ่าหญ้ายี่ห้อไกลโฟเซต และพาราควอต เข้าตรวจค้นโกดังไม่มีเลขที่ หมู่ 10 ต.ตาลเดี่ยว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ภายหลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนว่าเป็นแหล่งผลิตยาฆ่าหญ้าปลอม
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบนายเมฆประภาณ สุขเกษม อายุ 37 ปี ชาวบ้าน หมู่ 5 ต.หนองแจง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ อยู่ในโกดังดังกล่าวตรวจสอบพบของกลางประกอบด้วย
1.พาราคอต 5 ลิตร จำนวน 299 ลิตร มูลค่า 149,500 บาท
2.พาราคอต 1 ลิตร จำนวน 10 ลิตร มูลค่า 1500 บาท
3.ไกลโฟเซต 48 จำนวน 544 ลิตร มูลค่า 54,400 บาท
4.แกลลอนเปล่า ขนาด 5 ลิตร จำนวน 2102 แกลลอน มูลค่า 21,020 บาท
5.แกลลอนเปล่า ขนาด 4 ลิตร จำนวน 1,085 แกลลอน มูลค่า 7,595 บาท
6.ขวดเปล่า 1 ลิตร จำนวน 277 ขวด มูลค่า 831 บาท
7.ฝาตวงขนาด 100 cc. จำนวน 256 ฝา มูลค่า 1,280 บาท
8.กล่องเปล่า จำนวน 163 ลัง มูลค่า 3,260 บาท
9. พาราควอตขนาด 200 ลิตร จำนวน 800 ลิตร มูลค่า 400,000 บาท
10.ฉลากผลิตภัณฑ์ จำนวน 17,225 ใบ มูลค่า 43,062 บาท
11.ฝาพาราควอต จำนวน 1,046 ฝา มูลค่า 10,460 บาท
12.ไกลโฟเซต จำนวน 362 ฝา มูลค่า 3,580 บาท
13.ไกลโฟเซต20 ลิตร มูลค่า 8,000 บาท รวมมูลค่ารวมทั้งหมด 704,488 บาท อยู่ในโกดังและอยู่บนรถกระบะใส่หลังคาสแตนเลส ยี่ห้อมิตซูบิชิสีขาว หมายเลขทะเบียน ฒร 7905 กทม บริเวณด้านข้างตัวรถติดสัญลักษณ์บริษัท “เกษตรเซ็นเตอร์ “ จึงอายัดของกลางที่พบอยู่ในรถยนต์และในโกดังทันที
สอบถามนายเมฆประภาณ สุขเกษม รับว่าเป็นลูกจ้างของบริษัทเกษตรเซ็นเตอร์และเป็นเจ้าของของกลางทั้งหมด ส่วนรถยนต์และโกดังนั้นได้เช่ามาจากบริษัทเกษตรเซ็นเตอร์อีกทอดหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปตรวจสอบต่อที่บริษัทเกษตรเซ็นเตอร์เลขที่ 86/2 หมู่ 4 ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เป็นอาคารปูนขนาด 6 คูหาจำหน่ายปุ๋ยยาฆ่าแมลง จึงเข้าไปสอบถามพบน.ส.ภาริณี อินอารี อายุ 28 ปี รับเป็นเจ้าของผู้ประกอบกิจการ
พันโท เกียติอุดม นาดี ผบ.ม.พัน 28 จึงเข้าสอบถามว่านายเมฆประภาณเกี่ยวข้องอะไรกับบริษัทเกษตรเซ็นเตอร์ น.ส.ภาริณี จึงแจ้งว่าเป็นสามีของตนเองและมีบุตรด้วยกันสองคน เจ้าหน้าที่จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงตรวจสอบสินค้าภายในร้านและโกดังที่อยู่บริเวณด้านหลัง พบยาฆ่าแมลงและปุ๋ยจำนวนหนึ่ง ตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นยาฆ่าหญ้าปลอมหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่จะต้องทำการตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง
นายพิจิตร ศรีปินตา เจ้าหน้าที่สารวัตรเกษตรสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขต 2 กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านว่าสงสัยยาฆ่าหญ้าของบริษัทเกษตรเซ็นเตอร์จะเป็นสินค้าปลอมแปลง เพราะใช้ไม่ได้ผลเหมือนที่ซื้อจากที่อื่น เบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหามีความผิดอาญาตามกฏหมายพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 คือ มีความผิดฐานผลิตและมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต และวัตถุอันตรายที่แสดงชื่อ เครื่องหมายการค้า สถานที่ตั้งของสถานที่ผลิตซึ่งไม่ใช่ความจริง ถือเป็นวัตถุอันตรายปลอม โดย ลักษณะวิธีการคือนำยาฆ่าหญ้ามาเจือจางกับน้ำและเกลือเพื่อให้ได้ผลผลิตมากถึงสามเท่าตัวและใส่แกลลอนติดสลากที่สั่งผลิตใหม่ และไม่ใช่ของบริษัทผู้ผลิต ซึ่งของกลางทั้งหมดนั้นหากนำไปจำหน่ายจะมีมูลค่าสูงเกือบยี่สิบล้านบาท.
ข้อมูลข่าวท้องถิ่น