สมคิด เผย จ่อยื่นเพิ่มอีกมากกว่า 3 คนมีชื่อในโผ ครม.ใหม่ แง้มอักษรย่อ ‘พ’ ฝากนายกฯ อิ๊งค์ หากฝืนตั้ง ล่อแหลมถูกสอบจริยธรรม
วันที่ 21 ส.ค.2567 เวลา 13.39 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) : นายสมคิด หอมเนตร นักวิชาการอิสระ ประธานเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น ยื่นหนังสือขอให้ประธานคณะกรรมการป.ป.ช. ตรวจสอบการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนางมนพร เจริญศรี รมว.คมนาคมและในฐานะ สส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ว่ามีการยื่นเอกสารอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริง
นายสมคิดฯ กล่าวว่า นักการเมืองท่านหนึ่งที่ดำรงตำแหน่งในกระทรวงคมนาคม ได้ยื่นรายงานต่อ ป.ป.ช.ว่า มีเงินติดบัญชี 6,819 บาท แต่จากการตรวจสอบย้อนหลังในปี 2562 และ 2566 พบว่า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครพนม ก็ยังมีการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ โดยยังมีกิจการโรงแรมที่จังหวัดนครพนม 2 แห่ง ไม่มีการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน รวมถึงการถือครองที่ดินในจังหวัดนครพนมและกรุงเทพฯอีก 14 แปลง ซึ่งได้ยื่นเอกสารทั้งหมดต่อ ป.ป.ช.ตรวจสอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินย้อนหลังทั้งในฐานะเป็นสส.และในฐานะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยฯ เนื่องจาก รัฐมนตรีช่วยฯ รายนี้ดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง เป็นนายกอบจ. นครพนม 2 สมัย และเป็นสส.นครพนม ในปี 2562 และปี 2566
พร้อมกันนี้ก็ฝากไปยังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างสรรหาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ หากยังมีบุคคลนี้ร่วมในครม. ก็จะทำให้ล่อแหลมถูกยื่นยื่นตรวจสอบจริยธรรม เป็นปัญหาข้อกฎหมายต่อไป ส่วนในวันที่ 22 ส.ค. ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบ ซึ่งยังคงมีนักการเมืองอีกประมาณ 2-3 ราย ที่มีลักษณะเช่นเดียวกันที่จะถูกยื่นให้ตรวจสอบการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน…
“ตามเอกสารที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. เธอมีที่ดินครอบครอง 14 แปลง แม้จะแจ้งต่อสาธารณชนว่าจดทะเบียนหย่ากับสามีแล้ว แต่โดยข้อเท็จจริงยังคงใช้นามสกุลสามีโดยเปิดเผย แม้ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ดังนั้นแม้หย่าแล้วถือว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน และยังอยู่บ้านเดียวกัน ดังนั้นทรัพย์สินที่เกิดขึ้นในขณะดำรงตำแหน่งนายกอบจ.นครพนม สส.นครพนม ก็ต้องแสดงทรัพย์สินด้วย รวมทั้งกิจการโรงแรมที่จังหวัดนครพนม ที่ดินและทรัพย์สินอื่นๆ” นายสมคิดฯ กล่าว
เมื่อถามว่าการที่มายื่นเรื่องต่อป.ป.ช.ในวันนี้ไม่ได้เป็นการสกัดกั้นไม่ให้รมช.คมนาคมคนดังกล่าวให้เข้ารับตำแหน่งในครม.ชุดใหม่ใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่ใช่การสกัดกั้น แต่เป็นการยื่นตามปกติ เพื่อตรวจพบหลักฐานข้อมูล ซึ่งอาจจะไม่ใช่รมช.คมนาคมรายนี้เพียงรายเดียว อาจจะมีรายอื่นด้วยที่มีลักษณะยื่นแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ซึ่งตนกำลังรวบรวมข้อมูลแต่ขอยังไม่เปิดเผยรายชื่อ มีมากกว่า 3 ราย โดยมีบุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในโผครม.ชุดใหม่ และบุคคลมีอักษรย่อ “พ” ด้วย
นายสมคิดฯ กล่าวต่ออีกว่า ตนมีเอกสารหลักฐานชัดเจน เพราะตนมายื่นจะต้องรับผิดชอบ หากยื่นเรื่องเท็จก็เข้าข่ายมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และมาตรา 328 อยู่แล้ว ตนยืนตามสิทธิในรัฐธรรมนูญมาตรา 285 พี่ให้สิทธิ์บุคคลในการยื่นตรวจสอบหน่วยงานของรัฐ บุคคลของรัฐโดยสุจริตและเปิดเผย ย่อมได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญและตามกฎหมายอาญา มาตรา 239 เพื่อปกป้องประโยชน์สาธารณะไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้