ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวลง แต่ราคายังได้แรงหนุนจากการชะลอตัวของการขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าตลาดสหรัฐ ปิดตลาดวันจันทร์ (17ก.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลง แต่ราคายังได้แรงหนุนจากการชะลอตัวของการขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐ
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 52 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดตลาดที่ระดับ 46.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 49 เซนต์ หรือ 1% ปิดตลาดที่ราคา 48.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 2 แท่น สู่ระดับ 765 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2558
ทั้งนี้ แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนลดลงเพียง 2 ครั้งในปีนี้ แต่จำนวนที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ก็ได้แสดงถึงสัญญาณการชะลอตัวลงในระยะนี้
จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีจำนวนเฉลี่ยที่ระดับ 5 แท่น ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2559
นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ค.ทำสถิติดิ่งลงมากที่สุดในรอบ 10 เดือน ซึ่งช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าตลาดน้ำมันกำลังเข้าสู่ภาวะปรับสมดุล
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงในการประชุมกันเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ในการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า แต่ราคาน้ำมันได้ถูกกดดันก่อนหน้านี้ จากการผลิตน้ำมันที่มากขึ้นของสหรัฐ รวมทั้งลิเบียและไนจีเรีย ซึ่งเป็น 2 ประเทศสมาชิกโอเปกที่ได้รับการยกเว้นจากข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต
รัฐมนตรีน้ำมันจาก 5 ชาติของโอเปก ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต รวมทั้งซาอุดิอาระเบีย จะเข้าร่วมการประชุมที่รัสเซียในวันที่ 24 ก.ค. นี้ โดยที่ประชุมอาจมีการเสนอมาตรการกระตุ้นราคาเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมโอเปกเต็มคณะในเดือนพ.ย.