นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคามังคุดในภาคตะวันออกและภาคใต้ขณะนี้มีการปรับตัวลดลง เนื่องจากผลผลิตของทางภาคตะวันออกในปีนี้มีความล่าช้ากว่าปกติ ทำให้ผลผลิตออกมาพร้อมกันกับมังคุดในภาคใต้ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากพ่อค้าที่รับซื้อมังคุดยังคงเปิดรับซื้ออยู่ในภาคตะวันออก ทำให้ยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายแรงงานมายังภาคใต้ได้
ส่งผลให้ในภาคใต้ประสบปัญหาไม่มีพ่อค้าเข้ามารับซื้อในพื้นที่ ซึ่งในส่วนของขบวนการสหกรณ์ มีการเปิดจุดรับซื้อมังคุดมาอย่างต่อเนื่อง โดยสหกรณ์ในภาคตะวันออกรวบรวมและจำหน่ายมังคุดแล้วตั้งแต่ต้นฤดูกาลปริมาณ 19,873.04 ตัน
ส่วนในภาคใต้ได้เริ่มรวบรวมมังคุดแล้วใน 2 จังหวัด ได้แก่ จ.ชุมพรและสุราษฎร์ธานี โดยได้รวบรวมแล้วเป็นปริมาณ 212.17 ตัน ซึ่งปริมาณมังคุดที่สหกรณ์ได้ดำเนินการรวบรวมแล้วทั้ง 2 ภาค มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 20,085.21 ตัน จาก 15 สหกรณ์ โดยสหกรณ์ได้กระจายผลผลิตออกสู่ตลาดผ่านหลายช่องทาง อาทิ ห้างสรรพสินค้า ผู้ส่งออก คู่ค้าในประเทศ และผ่านทางเครือข่ายสหกรณ์
ทั้งนี้ สหกรณ์ในจ.จันทบุรี 7 แห่ง ได้ร่วมกันวางแผนการบริหารจัดการรวมกลุ่มสมาชิกผู้ผลิตผลไม้คุณภาพ และประสานช่องทางการตลาดเพื่อกระจายผลผลิตให้กับผู้ส่งออกผลไม้ ห้างโมเดิร์นเทรด ตลาดในต่างจังหวัด และเครือข่ายสหกรณ์ในภาคต่างๆ จำนวน 17,951 ตัน ส่วนสหกรณ์ในจ.ระยอง มีเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนผลไม้คุณภาพเมืองบ้านค่าย และสหกรณ์การเกษตรบ้านน้ำเป็น จำกัด นำมังคุดมาบรรจุใส่กล่องส่งขายที่โรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง และเปิดจุดจำหน่ายในพื้นที่ส่วนราชการในจังหวัดระยองและตลาดพัทยา
ขณะที่จัจ.ตราด ปริมาณมังคุดในพื้นที่มีเพิ่มมากขึ้น ทางจังหวัดมีมาตรการในการช่วยเหลือโดยให้สหกรณ์ 3 แห่งรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร โดยเปิดจุดรับซื้อตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. เพื่อส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา เวียดนาม และยังส่งไปจำหน่ายที่จ.เชียงราย และยังเก็บมังคุดส่วนหนึ่งเตรียมไว้แปรรูปเพื่อส่งออกไปประเทศจีนด้วย ขณะที่ทางสหกรณ์การเกษตรบ้านน้ำเป็น จำกัด รวบรวมมังคุดจำหน่ายให้ห้างสรรพสินค้าและพ่อค้าปลีกทั่วไปแล้ว จำนวน 50 ตัน