เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2567 ณ ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (ชั้น5) ตำบลบ้านฉาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี นายชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้เชิญประชุมคณะกรรมการตรวจติดตามผลงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยมีสมาชิกสภา อบจ.ปทุมธานี รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯ
โดยได้มีการตรวจติดตามผลงานโครงการตามข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2566-พ.ศ.2567 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ทั้ง 7 อำเภอ รวมถึงสมาชิกสภา อบจ.ปทุมธานี ได้มีการติดตามงานในพื้นที่อำเภอของตนกับส่วนราชการต่างๆที่รับผิดชอบ โดยในวาระที่3 เรื่องอื่นๆ ประธานในที่ประชุมได้มีการสอบถามเรื่องการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 เนื่องจากขณะนี้ อบจ.ปทุมธานี ยังไม่มีผู้บริหารชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารงาน มีเพียง ปลัด อบจ.ปทุมธานี ปฏิบัติหน้าที่ นายก อบจ.ปทุมธานี ทำหน้าที่ในการตัดสินใจบริหารงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ซึ่งนางสาวกมลวรรณ วงษ์สมุทร ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณ กล่าวว่า เบื้องต้นได้เรียนกับท่านปลัด อบจ.ปทุมธานี ท่านให้รอนโยบายจากคณะผู้บริหารใหม่ เนื่องจากต้องให้เป็นไปตามระเบียบ และต้องรอนโยบายเพื่อเปลี่ยนวิสัยทัศน์ พันธกิจ และเป้าประสงค์ทั้งหมด
นายชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ ประธานสภา อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ผมเป็นประธานคณะกรรมการตรวจติดตามผลงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ได้เชิญท่านคณะกรรมการตรวจติดตาม ผลงบประมาณ รายจ่ายประจำปีมาประชุม เพื่อติดตามผลงานโครงการ ตามข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2566-พ.ศ.2567 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และได้เชิญท่านสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เข้าร่วมประชุมด้วยเพื่อที่จะติดตามงานในพื้นที่ของตนแต่ละอำเภอ เพราะว่าสมาชิกฯทุกท่านจะรู้ข้อเท็จจริง มีข้อมูลที่อัพเดต ชัดเจน ของงานภายในพื้นที่ เพื่อที่จะมาเสนอในที่ประชุม และติดตามเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่เกินงบประมาณที่ตั้งไว้ จากที่ อบจ.ปทุมธานี ที่ตั้งงบประมาณไว้ 1,750 ล้าน บาท ขณะนี้งบประมาณจากการจัดเก็บรายได้มีมากถึง 2 พันล้านบาท เกินงบประมาณมากว่า 302 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นต้องทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดปทุมธานี และประกอบกับสถานการณ์น้ำในปัจจุบันปริมาณน้ำในเม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มสูงขึ้น จังหวัดในภาคกลางตอนบน เริ่มมีน้ำเอ้อล้นริมตลิ่งส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน จังหวัดปทุมธานีซึ่งมีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน และมีคลองส่งน้ำ ทางอบจ.ปทุมธานีต้องมีงบประมาณ และแผนในการป้องกันและรับมือน้ำท่วมในปีนี้ ผมในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ได้เชิญข้าราชการร่วมถึง ปลัด อบจ. ซึ่งมีฐานะปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี โดยยังไม่มีคณะผู้บริหารในช่วงเวลานี้ ได้เริ่มทำโครงการที่จะรองรับในงบเพิ่มเติมนี้หรือยัง และได้ดำเนินการทำงบประมาณรายจ่ายของปี 2568 หรือยัง ผมไม่อยากให้งบประมาณจากเงินภาษีของประชาชนตกเป็นเงินสะสมไปโดยเปล่าประโยชน์ ประชาชนชาวจังหวัดปทุมธานีควรได้รับประโยชน์จากงบประมาณของอบจ.ปทุมธานี จึงฝากให้ปลัด อบจ. รองปลัด อบจ. หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องได้คิดในข้อนี้ด้วย และผมได้นัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 9 ส.ค.2567 โดยเชิญปลัด อบจ. รองปลัด อบจ. หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามงาน และตอบข้อซักถามของคะกรรมการตรวจติดตามผลงบประมาณรายจ่ายประจำปีอีกครั้ง แต่เนื่องจากวันนี้ท่าน ปลัด อบจ.ปทุมธานี ไม่ได้เข้าร่วมประชุม จึงได้แต่สอบถาม ผอ.กองต่าง ๆ และยังติดตามสถานการณ์ในการป้องกันน้ำท่วมหรือว่าตั้งเรื่องในการดูแลป้องกันเนื่องจากขณะนี้ฝนตกมากจึงห่วงเรื่องอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องชาวจังหวัดปทุมธานี โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้รับผลกระทบก่อนในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี
ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน