สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดย นาง เกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เป็นประธานในพิธีประกวดผลงานนักเรียนรอบตัดสิน และมอบโล่รางวัลและเกียรติบัตร แก่ผู้ชนะ ในการประกวดคลิปวีดิทัศน์ “Meditation Clip Contest” ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนโครงการ Meditation CFH (Calm, Focus & Happiness) ลงสู่สถานศึกษาตามนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” เพื่อให้สถานศึกษาได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการเตรียมความพร้อมให้กับครูและผู้เรียนให้มีสติ มีสมาธิ
ผ่านการฝึกปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยให้มีสุขภาพจิตที่แข็งแรง มีสติพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิต รวมทั้งมีจิตใจที่เข้มแข็งต่ออบายมุขและยาเสพติด และพัฒนาการเรียนรู้ให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ดีขึ้น และถูกต้อง โดยมีแพทย์หญิงกุหลาบ จิตต์มิตรภาพ ประธานบริหารฝ่ายแพทย์ผิวดีคลินิก และเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาโครงการร่วมชี้แจงการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมผ่านการฝึกปฏิบัติเพื่อให้ครูและผู้เรียนนำหลักการมีสมาธิ มีสติ ไปปรับใช้กับสถานศึกษาของตนเอง
นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า สพฐ.เล็งเห็นความสำคัญว่า เด็กควรได้รับการดูแลด้านจิตใจเพราจะทำให้มีเกราะป้องกัน ขอชื่นชม แพทย์หญิงกุหลาบ จิตต์มิตรภาพ ที่ได้เสนอโครงการต่อกระทรวงศึกษาธิการ และได้ร่วมดำเนินการขับเคลื่อนโครงการจนสำเร็จลุล่วงและนำมาสู่การจัดงานในครั้งนี้ ซึ่งเป็นเฟสที่ 2 จากเดิมที่ทำเป็นคลิปวอร์มอัพด้วยเพลงและการทำสมาธิร่วมกันระหว่างเด็กกับผู้ปกครอง ครั้งนี้เพิ่มเติมเป็น Medttation เต็มรูปแบบ โดยให้ร่วมกันจัดทำเป็นคลิปสั้น เพื่อให้เด็กมีสติในการรับมือเมื่อต้องเจอกับการใช้ชีวิตที่วุ่นวาย แล้วนำ Meditation มาช่วย เกิดการนิ่งใน และสามารถตัดสินใจ ทำอะไรได้โดยไม่ประมาท ถือ
เป็นการเติมพลังเชิงบวกที่จิตใจและจะติดตัวเขาไปตลอด เราทำทั้ง 3 ระดับคือ ประถม มัธยม และมัธบมปลาย
“สิ่งที่อยากเห็นก็คือ อยากให้เด็กนำเรื่อง Meditation ไปใช้ในการดำรงชีวิต คุณครูและคนทั่วไปก็สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะ Meditation จะทำให้เกิดสติ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เด็กมีภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็ง เมื่อไปเจอกับสิ่งแวดล้อมใดๆ ถ้าเขามีภูมิต้านทานในชีวิต เขาจะสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคง เป็นการเรียนดีมีสุขได้ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ”
แพทย์หญิง กุหลาบ จิตต์มิตรภาพ ผู้ริเริ่มโครงการ Meditation CFH เปิดเผยว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาได้เห็นประโยชน์จากการทำสมาธิช่วยให้จิตใจสบายมีความสุขมีพลังที่จะทำทุกอย่างให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี ที่สำคัญสามารถผลักดันตัวเองให้ทำในสิ่งที่ทำยากได้ด้วย และในเวลาที่ไม่มีกำลังใจการทำสมาธิทำให้จิตใจสงบลง สามารถทงานที่อยากทำเรียนหนังสือที่อยากเรียนได้ดีที่สุด แนวคิดนี้ได้นำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความเห็นชอบผ่านมาแล้ว 2 ท่านคือ นางสาวตรีนุช เทียนทอง อดีต รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ และ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการคนปัจจุบัน
“ในต่างประเทศมีงานวิจัยรองรับว่า การทำ Meditation เป็นโครงการที่จะช่วยส่งเสริมการใช้สมาธิโดยเอาจิตมาเฝ้าสังเกตลมหายใจเข้าออก ด้วยใจที่เป็นกลางเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอครั้งละ 10 นาที ฝีกปฎิบัติทุกวันจะช่วยทำให้จิตนิ่ง สงบ มีสมาธิ และมีความสุขมากขึ้น ขณะนี้มีการฝึกปฏิบัติในหลายประเทศ เช่น อินเดีย มาเลเซีย เบลเยี่ยม โครงการดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อพัฒนาครูและผู้เรียนให้มีความสุข มีสมาธิในการเรียน มีสุขภาพจิตที่แข็งแรง มีสติพร้อมจะรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน รวมทั้งยังมีจิตใจที่เข้มแข็งต่ออบายมุขและยาเสพติด และพัฒนาการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ได้ดีขึ้นผ่านการฝึกปฏิบัติการมีสติเพื่อเกิดปัญญาอย่างสมำ่เสมอและถูกต้อง”
สำหรับการประกวดคลิปในโครงการ มีผลงานคลิปวีดิทัศน์ส่งเข้าคัดเลือกจำนวนทั้งสิ้น 167 ทีม จาก 123 เขตพื้นที่การศึกษา แบ่งเป็นระดับประถมศึกษา จำนวน 83 ทีม ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 49 ทีม และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 35 ทีม ซึ่งผลการตัดสินรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ระดับประถมศึกษา ชื่อผลงาน “ชีวิตที่ว้าวุ่น…ใช้สติสมาธิค้ำจุน ช่วยหาทางออกได้” โดยโรงเรียนวัดบ่อกรุ “คุรุประชาสรรค์” สังกัด สพป.สุพรรณบุรี เขต 3 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ชื่อผลงาน “เด็กวัด” โดยโรงเรียนบ้านศรีเมือง สังกัด สพป.อุดรธานี เขต 3 และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ชื่อผลงาน “รู้สติ จิตสงบ” โดยโรงเรียนพิบูลวิทยาลัย สังกัดสพม.ลพบุรี ทั้ง 3 ระดับ ได้รับโล่พร้อมเงินรางวัลทุนการศึกษา จำนวน 40,000 บาท ผลการตัดสินรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ใน 3 ระดับชั้น ได้แก่ ชื่อผลงาน “10 นาที ดีกว่าที่คิด” โดยโรงเรียนบ้านกาวะ สังกัดสพป.นราธิวาส
เขต 2 ชื่อผลงาน “แค่เข้าใจ (Just Love Me)” โดยโรงเรียนศรีมหาโพธิ สังกัด สพม.ปราจีนบุรี นครนายก และ ชื่อผลงาน “ชีวิตแบบใด” โดยโรงเรียนชาติตระการวิทยา สังกัดสพม.พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ทั้ง 3 ระดับ ได้รับโล่ พร้อมเงินรางวัลทุนการศึกษา จำนวน 30,000 บาท ผลการตัดสินรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ใน 3 ระดับชั้น ได้แก่ ชื่อผลงาน “วัยใส วัยสติ” โดยโรงเรียนมูลนิธิวัดศรีอุบลรัตนาราม สังกัด สพป.อุบลราชธานี เขต 1 ชื่อผลงาน “ว่าไงวัยรุ่น” โดยโรงเรียนตากพิทยาคม สังกัด สพม.ตาก และชื่อผลงาน “วงจรชีวิต ของ Homo
sapiens” โดยโรงเรียนสันติคีรีวิทยาคม สังกัด สพม.เชียงราย ทั้ง 3 ระดับ ได้รับโล่พร้อมเงินรางวัลทุนการศึกษา จำนวน 20,000 บาท และผลการตัดสินรางวัลชมเชย ทั้งสิ้น จำนวน 9 รางวัล ได้แก่ ชื่อผลงาน “ใช้สมอง นั่งสมาธิ (ใช้หมอง นั่งมาธิ)” “ใจเย็นได้ด้วยสมาธิ” “สตินำทาง” “ไอ แฮฟ สติ” “พอใจ” “Meditation “วัยว้าวุ่น”” “หลักตอ” “The relax ปลด ปล่อย วาง” “Second “วินาที””