ด้วยวัยเพียง 11 ขวบ แต่ความฝันของพ่อหนู แซค ฟรานคอม ช่างยิ่งใหญ่ เขาอยากซื้อวีลแชร์ให้ผู้พิการ
ในประเทศยากจนทั่วโลก และตอนนี้เขาก็ทำฝันตัวเองให้เป็นจริงได้แล้ว จากการตั้งแผงขายน้ำมะนาว
และคุกกี้โฮมเมดที่หน้าบ้านตลอด 4 ปี จนเก็บเงินซื้อวีลแชร์บริจาคได้แล้วกว่า 300 ตัว
รถที่ขับผ่านไปผ่านมาที่บนนถนนสายหน้าบ้านของหนุ่มน้อยผู้ร่าเริง แซค ฟรานคอม วัย 11 ปี ใน
เมืองพราโว รัฐยูทาห์ สหรัฐฯ คงได้เห็นแผงขายน้ำมะนาวติดป้ายสีเหลืองสลับขาว ชื่อร้าน
“Zack’s Shack” ถึงจะเป็นร้านเล็ก ๆ แต่บอกเลยว่าเบื้องหลังของร้านนั้นคือความฝันและเป้าหมาย
อันยิ่งใหญ่ของเจ้า หนูวัยประถม เมื่อสิ่งที่เขาทำในทุก ๆ หน้าร้อนตลอด 4 ปีที่ผ่านมา คือการตั้งแผง
ขายน้ำมะนาวและคุกกี้โฮมเมดฝีมือคุณแม่ เพื่อนำรายได้ไปซื้อวีลแชร์บริจาคให้กับผู้พิการในประเทศ
ยากจน
เว็บไซต์ยาฮู ผู้นำเรื่องราวแสนอบอุ่นหัวใจนี้มาแชร์ เผยว่า ไอเดียดี ๆ นี้ของแซค เริ่มขึ้นตั้งแต่สมัย
ที่โรงเรียนของเขาช่วยระดมทุนเพื่อซื้อวีลแชร์ให้กับ มูลนิธิมอร์มัม แชริตี้ ของกลุ่มผู้ใจบุญแอลดีเอส
ตอนนั้นเขาอายุแค่ 6 ขวบ แต่ก็รู้สึกอยากทำมันต่อไปเรื่อย ๆ
“ผมคิดว่า ถ้าหากผมวิ่ง เดิน หรือขี่จักรยานไม่ได้อีกต่อไปแล้วจะเป็นยังไง ยังมีคนที่เดินและวิ่งไม่ได้
แต่ก็ไม่มีเงินซื้อวีลแชร์ ผมอยากช่วยให้ชีวิตเขาง่ายขึ้น” แซค กล่าว
นับแต่นั้น แซค ก็ปิ๊งไอเดียว่าเขาสามารถหาเงินได้ ด้วยการขายของเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยได้แม่ของเขา
ช่วยทำน้ำมะนาวและคุกกี้ให้ไปตั้งขายที่หน้าบ้าน แผงร้านน้ำมะนาวเล็ก ๆ ของเขาเริ่มเปิดทำการใน
ช่วงฤดูร้อนนับแต่นั้นเป็นต้นมา จากข่าวที่เริ่มกระจายออกไป ทำให้มีทั้งลูกค้าที่อยากลิ้มชิมรสเครื่องดื่ม
และขนมอร่อย ๆ คนที่เอ็นดูพ่อหนูน้อย รวมทั้งผู้ที่ทราบถึงจุดประสงค์ของการขายน้ำมะนาว พากันมา
ต่อแถวอุดหนุนร้าน Zack’s Shack มากมาย ทำเอาพ่อหนูยิ้มแก้มปริที่สามารถหาเงินมาซื้อวีลแชร์ได้
ตามต้องการ
แม่ของแซคเผยว่า เธอไม่เคยเห็นเด็กวัยสิบกว่าขวบคนไหนที่มีจิตใจอ่อนโยนแบบนี้มาก่อนเลย
“ฉันรู้ว่าเขาเป็นคนพิเศษ เขามาอยู่ตรงนี้เพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และในฐานะคนเป็นพ่อแม่ก็ต้องช่วยเหลือ
สนับสนุนเต็มที่อยู่แล้วล่ะค่ะ”
จากการขายน้ำมะนาวกับคุกกี้มาตลอด 4 ปี จนถึงตอนนี้แซคได้ซื้อวีลแชร์บริจาคไปแล้วกว่า 300 ตัว
โดยมันถูกส่งไปตามประเทศที่ยังยากจนต่าง ๆ เช่น กัวเตมาลา เกาะกวม และประเทศอื่น ๆ ที่ราคาวีลแชร์
สักคันหนึ่งอาจมากเท่ากับรายได้ตลอดทั้งปีของพวกเขา แม่ของแซคยังเผยว่า เจ้าหน้าที่ผู้ไปส่งมอบกลับ
มาเล่าให้เธอฟังว่า หญิงพิการรายหนึ่งแบกลูกไว้บนหลังแล้วลากตัวมาตามทางมาไกลกว่า 15 กิโลเมตร
เพื่อมารับวีลแชร์ของแซค รถเข็นที่ได้รับไปจะช่วยเปลี่ยนชีวิตของเธอดีขึ้นกว่าเดิม
ไม่รู้เหมือนกันว่าในตอนนี้พ่อหนุ่มน้อยจะเข้าใจดีหรือยังว่าสิ่งที่เขาได้ ทำลงไปนั้นยิ่งใหญ่มากแค่ไหน
อย่างไรก็ดี แซคยังตั้งเป้าไว้ว่า ต่อไปเขาจะไม่ทำแค่ขายน้ำมะนาวเท่านั้น แต่จะเดินทางไปมอบวีลแชร์
ให้ถึงมือคนที่ต้องการเลยทีเดียว
“เป้าหมายของผมคือ สักวันหนึ่งจะได้บินไปรอบโลกแล้วก็มอบวีลแชร์ให้ถึงมือเขาเลยครับ”