วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 ที่มูลนิธิมงคล-จงกล ธูปกระจ่าง คลินิกการแพทย์แผนไทย ตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เตือนพี่น้องประชาชนรับมือน้ำท่วม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เน้นย้ำ 10 จังหวัด และ กทม. เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่วันที่ กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป
สืบเนื่องจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสาน 10 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานคร ให้เฝ้าระวังและติดตามระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป โดยให้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน และผู้ประกอบกิจการ รวมถึงประชาขนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ปีนี้ที่เราได้คาดการไว้เพราะว่าพายุเข้าเยอะ ประกอบกับตนเองอยู่ในกลุ่มไลย์ที่ประเมินสถานการณ์เรื่องน้ำตลอด จังหวัดริมแมน้ำเจ้าพระยาก็เตรียมความพร้อมแล้ว อย่างจังหวัดนครสวรรค์ทางท่านนายกสมศักดิ์ เมื่อท่านกลับเข้าไปท่านก็ดำเนินการที่เราทำงานมา 3 ปี ท่านประสานผมตลอดทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ส่วนแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน สถานการณ์ตอนนี้หนักแล้ว ทางเหนือทางอีสานเริ่มท่วมเพราะพายุฝนที่เข้ามา มวลน้ำเหล่านั้นจะมาลงที่เจ้าพระยาและมาจังหวัดเราอยู่แล้ว เพียงแต่เวลาจะไปขนานไหน
การเตรียมความพร้อมก็ได้แต่คุยกัน ที่รู้จักมักคุ้นส่วนตัวประสานเตรียมตัวไว้หากหนักหนาจริงๆ สิ่งที่ผมมีผมพร้อมทำเพื่อปทุมนอยู่แล้ว โดยผมได้เตรียมแท่งแบริเออร์ส่วนตัวที่มีอยู่เยอะ เราเบิกจ่ายอะไรไม่ได้ผมไม่มีหน้าที่อะไร แต่ก็ประสานไว้บ้างแล้วกับหน่วยงานที่เคยทำงานด้วยกันที่เป็นห่วงคือพี่น้องประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำขอให้ท่านเตรียมการนะ อย่าประมาทเด็ดขาด ยกของขึ้นที่สูง ปลั๊กไฟต่างๆ โครงการที่เราทำไว้ 3 ปีที่แล้วที่ร่วมกับนักศึกษาเทคนิคปทุมฯ เราได้ประสานไว้ปีนี้ทางเทคนิคปทุมฯเขาพร้อม ผมได้หารือกับท่าน ผอ.เทคนิคปทุมฯ ท่านได้บอกว่าผมทำเหมือนเดิม หากประชาชนต้องการให้ ย้ายสวิตซ์หรือปลั๊กไฟ ขึ้นที่สูง ก็ขอให้ติดต่อกับทางเทคนิคปทุมได้เหมือนเดิม ผมเชื่อว่าปีนี้หนักแน่ สถานการณ์ตอนนี้จะเหมือนกับในปี 54 โดยต้องมองว่าในปี 54 น้ำเริ่มท่วมจากเดือนไหน ตอนนี้เข้าปลายเดือนกรกฎาคม เมื่อปี 54 ในเดือนสิงหาคม ปทุมธานีท่วมแล้วในตอนนั้น แต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว น้ำจะมาช่วง สิงหาคม-กันยายน เราเอาอยู่ แต่ปีนี้ผมขอให้พี่น้องเราอย่าประมาทนะ
ในขณะที่ผมเอง ผมทำอะไรได้ ผมจะทำเต็มที่ เรามีอุปกรณ์ที่มีพี่น้องประชาชนบริจาคเข้ามาเพื่อใช้ในการช่วยเหลือประชาชน เช่น แท่งแบริเออร์ทั้งแท่งเล็กแท่งใหญ่ หากเรามัวแต่มัวแต่ก่อกระสอบทรายแบบที่ทำกันมันช้าและไม่แข็งแรงในจุดที่เรียงกระสอบทรายไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะเส้นริมคลองที่เคยท่วมเมื่อเราเอากระสอบทรายไปปิดก็จะทนแรงอัดของน้ำได้ ดีกว่าที่เราจะเรียกกระสอบทรายไปเรื่อยๆ บางจุดสูงเหนือหัวเรา แรงดันนำ้มากน่าเป็นห่วงโดนเฉพาะพื้นที่อำเภอสามโคก เพราะเป็นพื้นที่ที่อำเภอแรกที่รองรับน้ำ เราจึงต้องประสานจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อผันน้ำออกคลองพระยาบันลือตรงศูนย์ศิลปชีพบางไทรเพื่อให้น้ำลงแม่น้ำแม่กลองให้ได้ รวมถึงประสานป่าสักอย่าปล่อยน้ำมาลงคลองระพีพัฒฯ หากล้นคลองส่งน้ำเมื่อไรพี่น้องชาวหนองเสือเดือดร้อน และหากน้ำล้นคลองรังสิตน้ำจะปทุมธานี ผมจึงฝากทางชลประทานในแต่ละจุด ขอให้เตรียมอุปกรณ์เครื่องมือให้พร้อม ซึ่งทาง กทม.ก็เตรียมการณ์ไว้แล้ว หากน้ำล้นเข้าไปเขาจะปิดคลองสามวา ปิดคลองหกวา น้ำก็จะไหลไปไม่ได้จะย้อนกลับมาจังหวัดปทุมธานีเข้าคลองรังสิต ต้องตรวจสภาพเครื่องสูบน้ำต่างๆว่าพร้อมหรือไม่ หากไม่พร้อมขอให้บอกมาไปทาง อบจ. ปทุมเพราะก่อนที่ผมออกมา ผมได้เตรียมเรื่องนี้ไว้แล้วสั่งให้เครื่องสูบน้ำทั้งหมดพร้อมใช้งานได้ตลอด.
ภาพ/ข่าว สมาคมนักข่าวปทุมธานี