ระเบิดเบตง เผยภาพจากกล้องวงจรปิด คนร้ายขับรถตู้มาจอดจองที่หน้าโรงแรมฮอลิเดย์ ฮิลล์ ตั้งแต่บ่าย
ก่อนรถคาร์บอมบ์ขับมาจอดแทน ทิ้งบึ้มกลางเมือง ด้าน กสม. ออกแถลงการณ์ประณาม
ระเบิดเบตง เผยภาพวงจรปิดคนร้ายขับรถมาจอดก่อนบึ้ม
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2557 รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ทางช่อง 3 ได้เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิด
ที่ติดตั้งอยู่ใกล้โรงแรมฮอลิเดย์ ฮิลล์ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งจับภาพเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่
เอาไว้ได้
โดยเมื่อเวลา 14.48 น. ของวันที่ 25 กรกฎาคม ได้มีรถตู้สีขาว ป้ายเหลือง ทะเบียน 10-1019 ปัตตานี
ขับมาจอดจองพื้นที่หน้าโรงแรม หลังจากนั้นอีกเกือบสองชั่วโมง ได้มีรถกระบะติดป้ายปลอม ทะเบียน
บค-8594 เบตง ซึ่งบรรทุกระเบิดขับเข้ามาจอดแทนที่ ก่อนที่คนขับรถกระบะจะลงจากรถแล้วขึ้นรถตู้
ออกไปด้วยกัน
ทั้งนี้ เมื่อรถตู้ขับออกไปได้ประมาณ 15 นาที ก็ได้เกิดระเบิดขึ้น สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือน
ประชาชน ร้านค้าบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก และทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บอีกกว่า 40 คน
ขณะที่ในช่วงสาย พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4
ได้เดินทางเข้าไปติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้เร่งคลี่คลายสถานการณ์
และเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลือเยียวยา
ด้าน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงในพื้นที่
จังหวัดชายแดน พร้อมสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ให้หาบุคคลมาลงโทษ โดยระบุว่า ตามที่
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้มีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและติดตามสถานการณ์
ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2557 ได้เกิด
เหตุความรุนแรงระเบิดในพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เป็นเหตุให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต จำนวน
3 ราย ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมากกว่า 40 ราย และทรัพย์สินเสียหายดังปรากฏเป็นข่าว
ทาง กสม. ขอแสดงความเศร้าสลดเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้ง
ครอบครัวของบุคคลดังกล่าวที่ได้รับผลกระทบจากการใช้ความรุนแรง และขอประณามการใช้
ความรุนแรงที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงโดยใช้วิธีการที่ป่าเถื่อน โหดร้าย ทารุณ ไร้มนุษยธรรม
ทั้งผิดกฎหมาย ขัดต่อหลักศาสนาทุกศาสนา
และทาง กสม. ขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้ใช้ความพยายาม ในการดำเนินมาตรการรักษาความสงบ
เรียบร้อย โดยขอความร่วมมือให้ภาคประชาชนช่วยกันเฝ้าระวัง รวมทั้งแจ้งเบาะแสของผู้กระทำความผิด
เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรง พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบเพื่อดูแลเยียวยา รักษา
พยาบาล โดยเฉพาะการฟื้นฟูจิตใจในทุกมิติตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถ
