นางสาวนุชจรินทร์ อินประถม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ แถลงข่าวผลการดำเนินงาน ประจำเดือนมิถุนายน 2567 ซึ่งมีสื่อมวลชนจากหลากหลายสำนักข่าวเข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวฯ ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบปี 2567 โดยมีการแถลงข่าวผลการดำเนินงานที่น่าสนใจได้แก่ด้านตรวจสอบทรัพย์สิน ในส่วนของเรื่องคณะกรรมการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ มีมติชี้มูลความผิดของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ เท็จ โดย ปปช.ให้เสนอเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วินิจฉัยให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และขอให้ลงโทษทางอาญา ด้านปราบปรามการทุจริต คำพิพากษาเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ จำนวน 4 เรื่อง ซึ่งเรื่องที่ 1่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษา กรณีนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งในอำเภอน้ำหนาวกับพวก 7คน/ราย กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ร่วมกันเบิกจ่ายเงินค่าจ้างให้กับผู้รับจ้างทั้งที่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ และจัดทำเอกสารหลักฐานการควบคุมงานและการตรวจรับงานจ้างย้อนหลัง อันเป็นเท็จ เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ผู้รับจ้างทั้ง 3 โครงการ ให้ไม่ต้องชำระค่าปรับหรือให้ชำระค่าปรับน้อยกว่าที่กำหนด เป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนตำบลได้รับความเสียหาย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 133,781 บาท ซึ่งศาลมีคำพิพากษาตัดสินจำคุก จำเลยที่ 1-7 ตั้งแต่ 1-5 ปีและทั้งจำและปรับ
เรื่องที่ 2 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษา กรณีคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ประจำเขตพื้นที่การศึกษา มีคำสั่งบรรจุแต่งตั้งนายบัณฑิต จันดา โดยมิชอบ จำนวน 10 คน/ราย โดยศาลมีคำพิพากษาการกระทำของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3 ถึงที่ 10 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ให้จำคุกคนละ 2 ปี โดยไม่รอการลงโทษ และให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2 เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอรับฟังได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำข้อมูลของนายบัณฑิต จันดา เสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ประจำเขตพื้นที่การศึกษา
เรื่องที่ 3 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษา กรณีอดีตนายช่างโยธา องค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งในอำเภอเขาค้อกับพวก 3 คน/ราย กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้องค์การบริหารส่วนตำบลได้รับความเสียหาย หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เพื่อให้ผู้รับจ้างได้รับค่าจ้างตามสัญญาจ้าง ทั้งที่ไม่ได้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามสัญญา โดยศาลมีคำพิพากษาจำเลยที่ 1 มีความผิดตามาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา ให้จำคุก 1 ปี จำเลยที่ 2 และ 3 มีความผิดฐานสนับสนุนกากรระทำความผิดของจำเลยที่ 1 ให้จำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 8 เดือน และปรับจำเลยที่ 7 จำนวน 20,000 บาท ทั้งนี้คำให้การและทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ลดโทษให้จำเลยที่ 1 คงจำคุก 6 เดือน จำเลยที่ 2 คงจำคุก 2 เดือน และจำเลยที่ 3 คงให้ปรับเป็นเงินจำนวน 15,000 บาท
เรื่องที่ 4 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษา กรณีนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งในอำเภอวิเชียรบุรี กับพวก จำนวน 4 คน/ราย กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ สนับสนุนการทุจริตการดำเนินโครงการซ่อมถนนโดยการลงดินลูกรังและหินคลุก และโครงการอื่น ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ถึง 2557 เป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนตำบลได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 14,594,778 บาท โดยศาลมีคำพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 2 คนละ 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3) และคืนหรือใช้เงิน 13,694,778 บาท โดยให้จำเลยที่ 3 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 คืนหรือใช้เงิน 2,318,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 18 ปี 32 เดือน และจำคุกจำเลยที่ 4 มีกำหนด 28 ปี 224 เดือน และร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 คืนหรือใช้เงิน 11,236,778 บาท
นอกจากนี้ สำนักงาน ปปช.จังหวัดเพชรบูรณ์ได้ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานเฝ้าระวังและป้องปรามการทุจริตในพื้นที่ ร่วมกับชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริต อำเภอติดตามและประเมินผลการดำเนินงานเฝ้าระวังและป้องปรามการทุจริตในพื้นที่ฯ ณ เทศบาลตำบลดงขุย อำเภอชนแดน โดยติดตามการความคืบหน้าการดำเนินโครงการปรับปรุงร่องระบายน้ำ ชุมชนที่ 1 หมู่ 2 บ้านดงขุย ของเทศบาลตำบลดงขุย อำเภอชนแดน ติดตามการดำเนินการจัดสรรชุดกระเป๋าเครื่องมือและอุปกรณ์คัดกรองและตรวจสุขภาพเบื้องต้น ให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ในพื้นที่ตำบลวังบาล ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า ซึ่งดำเนินการภายใต้โครงการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ อันเนื่องจากการถ่ายโอนภารกิจของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล มายังองค์การบริหารส่วนจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์โครงการอาหารกลางวันนักเรียนของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ณ โรงเรียนบ้านโคกมน ตำบลโคกมน และโรงเรียนบ้านทรัพย์สว่าง ตำบลน้ำหนาว ซึ่งอยู่ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 2 และติดตามการปฏิบัติงานขององค์การบริหารส่วนตำบลปากดุก อำเภอหล่มสัก เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีประเภทต่าง ๆ พร้อมรับฟังสภาพปัญหา/อุปสรรคในการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ รวมถึงให้คำแนะนำและข้อสังเกตในการปฏิบัติงานแก่ผู้บริหารและข้าราชการเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การปฏิบัติงานของหน่วยงานเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ
ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการขอรับการสนับสนุนเงินจากกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ รวมถึงการประกาศสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. (นักบริหาร ป.ป.ช. ระดับสูง)ทั้งนี้ ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นจำนวนมาก โดยในช่วงท้ายของการแถลงข่าวฯ ได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้สอบถามและสัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ