ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ โดยเฉพาะปัญหาปืนผิดกฎหมาย ที่ปัจจุบันสถิติอาชญากรรมมีการนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนก่อเหตุอาชญากรรมมีเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก ล้วนเป็นต้นตอของการเกิดอาชญากรรม
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ,พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.พิสิทธิ์ เตชะ สว.กก.สส.1ฯ พร้อมชุดปฎิบัติการที่ 1 ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายอภิวัฒน์ หรือแซม อายุ 26 ปี ภูมิลำเนา แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลางในคดี อาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลงลำกล้องสีเงิน ด้ามจับสีน้ำตาล จำนวน 1 กระบอก,อาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลงลำกล้องสีเงิน ด้ามจับสีดำ จำนวน 1 กระบอก และ กระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 5 นัด
พฤติการณ์ นายอภิวัฒน์ หรือแซม ได้มีการค้าขายอาวุธปืนเถื่อนกับกลุ่มเพื่อน ในช่องทางกลุ่มแชท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ได้สืบสวนทราบว่า นายอภิวัฒน์ หรือแซม นั้นได้มีการทำอาวุธปืนเถื่อน ทำการค้าขายในกลุ่มเพื่อนและมีอาวุธปืนเถื่อนจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. จึงได้ทำการขอหมายค้นเพื่อทำการตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวที่นายอภิวัฒน์ หรือแซม พักอาศัยอยู่ ต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. เข้าทำการตรวจค้นตามหมายค้นศาลอาญามีนบุรี ที่ ค.255/2567 เข้าตรวจค้นบ้านพัก ซ.ประเสริฐมนูกิจ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร นั้น นายอภิวัฒน์ หรือแซมได้พยายามทำการปีนกำแพงหลังบ้านและวิ่งหลบหนี แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถไล่ติดตามและทำการจับกุมควบคุมตัวนายอภิวัฒน์ฯ ไว้ได้ จากนั้นได้นำตัวมานำตรวจค้น ผลการตรวจค้นภายในบ้าน พบอาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลง จำนวน 2 กระบอก และกระสุนปืน ขนาด .380 บรรจุอยู่ภายในอาวุธ อีกจำนวน 5 นัด
จากการตรวจสอบประวัติทางคดี พบดังนี้ ปี 2556 โดนจับคดีลักทรัพท์ในเวลากลางคืน ในพื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ,ปี 2556 โดนจับคดีพยายามฆ่าผู้อื่น ในพื้นที่ สภ.เมืองนนทบุรี และ ปี 2558 โดนจับคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น ในพื้นที่ สน.บึงกุ่ม ในชั้นจับกุม นายอภิวัฒน์ฯ รับว่า อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ถูกตรวจพบเป็นอาวุธปืนของตนเองจริง โดยที่ผ่านมาจะขายให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ กระบอกละ 10,000-15,000 บาท ขายไปแล้ว 3-4 กระบอก จากนั้นได้นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ฝากเตือนผู้ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ ผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ส่วนผู้ขายอาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท