เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 20 มิ.ย.พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผบก.น.9 สั่งการให้ พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม พ.ต.ท.ไกรฤกษ์ สิทธิโชติ สว.สส.สน.ท่าข้าม พ.ต.ต.บัญชา ปิยะศักดิ์สกุล สว.สส.สน.ท่าข้าม ร.ต.อ.นิรันดร์ เมืองใจ รอง สว.สส.สน.ท่าข้าม นำกำลังฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม จับกุมตัว นายฉัฐมะ หรือช้าง เจียมดำ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาธนบุรี ที่ 502/2567 และนายคมสรรค์ หรือหนุ่ย การบรรจง อายุ 37 ปี ความผิดฐาน “ร่วมลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป และ ปลอมเอกสารและหรือใช้เอกสารของทางราชการปลอม” โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 116/111 หมู่บ้านมิตรประชา ซอย 1 หมู่ 11 ต.บางรักพัฒนา อำเภอ บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี
พร้อมด้วยของกลางหลายรายการ อาทิ รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้ารุ่นโคลาร่าสีน้ำตาล ทะเบียนปลอม วห 8070 กทม. (สวมป้ายทะเบียนปลอม ภจ 9031 กทม.ใช้ในการกระทำความผิดลักทรัพย์ ) จำนวน 1 คัน, ล้อกระทะยางอะไหล่ยี่ห้อ บริดจสโตน รวม จำนวน 10 ล้อ, ล้อแม็คยางอะไหล่ยี่ห้อ ดันล๊อป 265/60 R 18 จำนวน 2 ล้อ, ดุมครอบล้อของโตโยต้า จำนวน 4 อัน, คีมตัดเหล็ก จำนวน 2 อัน, เครื่องมือถอดล้ออะไหล่ จำนวน 8 อัน, ปัดแจ จำนวน 7 อัน, คีม-คีมตัดเหล็กหางแดก จำนวน 4 อัน, แผ่นป้ายทะเบียนรถ ฉล 8622 กทม. จำนวน 1 แผ่น, ป้ายทะเบียนรถ ภจ 9031 กทม. จำนวน 2 แผ่นและป้ายทะเบียนรถ ชก 7556 กทม. จำนวน 1 แผ่น
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2567 เวลาประมาณ 10.46 น.นายวรัชญ์ วิบูลย์ศิริวงศ์ อายุ 28 ปี ผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้ามว่าเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน ผู้เสียหายได้จอดรถยนต์ ยี่ห้อ อีซูซุ สีเทา ทะเบียน 3 ฒผ 4276 กทม และรถยนต์โตโยต้า สีขาว-ดำ ทะเบียน 3 ขย 581 กทม โดยจอดไว้บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 981/36 ระหว่างซอยเทียนทะเล 15-17 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม.เมื่อวันที่ 19 พ.ค.67 เวลา 04.00 น.
ต่อมาเข้าวันที่ 20 พ.ค.67 เวลา 07.20 น. ปรากฎว่ารถยนต์ อีซูซุ ถูกคนร้ายขโมยล้ออะไหล่ไป และรถยนต์ โตโยต้า ฯ อีกคันก็ถูกคนร้ายขโมยล้ออะไหล่และกระดุมล้อ ก่อนหลบหนีไป ต่อมาฝ่ายสืบสวนสน.ท่าข้าม จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบเก็บหลักฐานเส้นจากกล้องวงจรปิด จนสามารถขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุในวันที่ 18 มิ.ย.67 พร้อมขอหมายค้นบ้านหลังดังกล่าว โดยศาลอนุมัติหมายค้นเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.67
ต่อมารับแจ้งจากสายลับว่า พบตัว นายฉัฐมะ เจียมดำ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี อยู่บริเวณบ้านหลังดังกล่าว จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบ นายฉัฐมะ ผู้ต้องหา ยืนอยู่ลักษณะรูปพรรณตรงกับผู้ต้องหาในหมายจับ จากการสอบถามนายฉัฐมะ รับว่าเป็นบุคคลในหมายจับจริง จากการตรวจค้นบ้านพักพบนายคมสรรค์ การบรรจง ผู้ต้องหาอีกราย
โดยนายคมสรรค์ บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า อยู่บ้านนี้มาประมาณ 4-5 ปี แล้วเพื่อทำงานกับ นายฉัฐมะ ฯ จึงควบคุมตัว นายคมสรรค์ ฯและนายฉัฐมะ เพื่อมาสอบปากคำที่ สน.ท่าข้าม
สอบสวน นายคมสรรค์ ฯ ให้การว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค.67 เวลาประมาณตี 4 ได้ร่วมกันกับนายฉัฐมะ เจียมดำ ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า โคโลล่า ทะเบียน ภจ 9031 กทม. ออกตระเวนลักล้ออะไหล่รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ และอีซซูซุ ดีแม็ก ที่บ้านเลขที่ 981/36 ระหว่างซอยเทียนทะเล 15-17 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. จริง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงพานายฉัฐมะ ฯ และนายคมสรรค์ฯ ไปยังที่เกิดเหตุ ซอยเทียนทะเล 15-17 เมื่อไปถึงนายฉัฐมะ ฯ ให้การว่า นายคมสรรค์ ฯ เป็นคนลงไปลักล้ออะไหล่ ตนเป็นคนขับรถยนต์
นายคมสรรค์ ฯ ให้การอีกว่า ตนบอกให้เทียบรถยนต์ฝั่งคนนั่ง คือฝั่งตนเข้าเทียบด้านหลังของรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์และอีซูซุ ดีแม็ก แล้วตนได้เปิดประตูลงไปพร้อมอุปกรณ์ถอดล้ออะไหล่ที่เตรียมมาด้วย ลงไปก่อเหตุโดยใช้มีดปลายแหลมที่ดัดแปลงมากรีดตรงบริเวณกันชนท้ายของรถยนต์ดังกล่าวแล้วสอดอุปกรณ์ถอดล้ออะไหล่ หมุนล้อลงมาแล้วนำขึ้นรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า โคโลล่า ทะเบียน ภจ 9031 กทม. แล้วขับหลบหนีไป และยืนยันว่าตนจำสถานที่เกิดเหตุได้ชัดเจนเพราะตนมาก่อเหตุที่นี่ยังผ่านไปไม่ถึงเดือน
สอบสวน นายฉัฐมะ ฯ ผู้ต้องหา ให้การว่าเริ่มก่อเหตุแบบนี้ตั้งแต่หลังน้ำท่วมปี 2554 และช่วงโควิดได้หยุดทำไปช่วงหนึ่งเพราะมีโรคระบาด และทางการมีมาตราการเคอฟิวส์จากการตั้งด่านของตำรวจ แต่หลังจากนั้น ยอมรับว่าได้ก่อเหตุลักษณะนี้มาตลอดจนมาถึงฝั่งธนบุรี ซึ่งมาเป็นประจำเพราะคุ้นเคยเส้นทางเป็นอย่างดีจึงเลือกก่อเหตุในพื้นที่นี้บ่อยครั้ง
นายฉัฐมะฯ ให้การอีก ว่า ก่อเหตุลักษณะดังกล่าว 10-15 ครั้งต่อเดือนพอได้ล้อรถยนต์มาแล้วจึงได้ให้ผู้ที่ร่วมก่อเหตุนำไปขายในราคาล้อละ 1,000-1,500 บาท ซึ่งในการก่อเหตุในหนึ่งคืนจะได้เงินประมาณ 4,000-5,000 บาท ต่อคืน ซึ่งตนได้เคยทำงานเกี่ยวกับการซ่อมรถและขับรถส่งของ และได้เรียนรู้ดูวิธีการถอดล้อยางอะไหล่จากเว็บยูทูป จึงมีความชำนาญในการถอดล้ออะไหล่รถยนต์ โดยแต่ละครั้งใช้เวลาไม่เกิน 3 นาที แล้วแต่ความยาก – ง่าย ขึ้นอยู่ที่รถแต่ละรุ่น ส่วนสาเหตุที่เลือกทะเบียนรถคันที่นำมาใช้ก่อเหตุนั้นได้มีเพื่อนแนะนำทำปลอมขึ้นมาให้ จึงได้ใช้ป้ายทะเบียนดังกล่าวสวมในการก่อเหตุตลอดจนมาถูกจับครั้งนี้
ด้านนางสาวสายชล (สงวนนามสกุล) พนักงานส่งของซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ขณะตนจอดรถไว้ที่หน้าบริษัท ย่านเพชรเกษม ซึ่งอยู่ติดริมถนนเพชรเกษม ได้ถูกผู้ต้องหาลักล้ออะไหล่ไป 1 ล้อ ทำให้ตอนได้รับผลกระทบเนื่องจากไม่มีล้อใช้ ในการวิ่งรถไปต่างจังหวัด ต้องขึ้นเหนือลงใต้ ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้นำรถไปล้างทำความสะอาดเมื่อนำกลับมาจอด ก็พบว่ายางอะไหล่ ถูกขโมยไป ก่อนไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพัก แล้วมาขอดูกล้องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าคนร้าย มากัน 2 คน โดยช่วงที่คนร้ายก่อเหตุ มีรถสวนไปมา โดยใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีในการก่อเหตุ ซึ่งวันนี้ทางตำรวจได้ตามให้มาดูของกลาง แต่ก็ยังไม่พบ ยางอะไหล่ของตน
ทั้งนี้ พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม ฝากประชาสัมพันธ์หากท่านใดที่เคยตกเป็นเหยื่อผู้ต้องหารายนี้ขอให้มาดูตัวได้ที่ สน.ท่าข้าม
เบื้องต้น จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป