จากกรณีเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมตำรวจนครบาล นำโดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.และ ผบก.น.1-9 เข้าร่วมประชุมหารือแนวทาง การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ตำรวจนครบาลเร่งจัดโครงการมหกรรมตลาดนัดแก้หนี้ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายใน 2 สัปดาห์ โดยขอให้ตำรวจนครบาลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าปราบปรามนายทุน ผู้มีอิทธิพลและเจ้าหนี้ที่ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนด รวมถึงจับกุมแก๊งหมวกกันน็อคทวงหนี้โหด ซึ่งนายเศรษฐา กล่าวว่า จะลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าด้วยตนเองตามที่เสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 มิ.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ตำรวจนครบาลจัดมหกรรมตลาดนัดแก้หนี้ พร้อมกัน 3 กองบังคับการ ประกอบด้วย พล.ต.ต.กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผบก.น.7 จัดตลาดนัดแก้หนี้ ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.น.8 จัดตลาดนัดแก้หนี้ ที่ โรงเรียนบางมดวิทยา และ พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผบก.น.9 จัดตลาดนัดแก้หนี้ ที่ ฮอลล์ ชั้น 4 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระราม 2 โดยทั้ง 3 จุดมีประชาชนนับพันราย เดินทางมาติดต่อ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ศาล เจ้าหน้าที่สำนักงานเขต และหน่วยงานธนาคารชั้นนำ อาทิ ธนาคารออมสิน กับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ช่วยไกล่เกลี่ยหนี้ รวมถึงแจ้งเบาะแส เกี่ยวกับนายทุน ผู้มีอิทธิพลและเจ้าหนี้ที่ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนด รวมถึงแก๊งหมวกกันน็อคทวงหนี้โหดจำนวนมาก
นายณรงค์ ตาปสนันทน์ ผู้อำนวยการเขตบางแค ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชากร เกิน 2 แสนราย และเป็นสำนักงานเขตที่มีประชากรมากที่สุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานเขตบางแคมีลูกหนี้ ที่เข้ามาขอรับความช่วยเหลือ มากกว่า 400 ราย ส่วนใหญ่ดำเนินการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะกรณีที่เจ้าหนี้ ไปหักค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการชำระหนี้จากเงินเดือน ซึ่งส่วนนี้เจ้าหน้าที่เราได้ให้ความช่วยเหลือ ด้วยการยกเลิกแนวทางปฏิบัติดังกล่าวให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนมาตรการดูแลลูกหนี้ทั้งหลาย ที่ประสบปัญหาจากค่าครองชีพไม่เพียงพอ ทางกรุงเทพมหานครได้ร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการเรียนการสอนอาชีพเพิ่มเติม เพื่อให้บรรดาลูกหนี้มีรายได้เพิ่มขึ้น
ขณะที่ นางภัสรา นทีทอง ผู้อำนวยการเขตบางขุนเทียน กล่าวว่า ทุกหน่วยงานที่ร่วมกันจัดมหกรรมตลาดนัดแก้หนี้ ขึันมา จะมีหน้าที่ประสานคู่เจรจา ระหว่าง เจ้าหนี้กับลูกหนี้ มาพบปะกันเพื่อ หาแนวทางและทางออกที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการชำระหนี้สินระหว่างกัน ในเบื้องต้นลูกหนี้ที่จะเข้ามาขอรับความช่วยเหลือ จะต้องผ่านการตรวจสอบยอดหนี้สินที่มีอยู่ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้พิจารณาว่า ท่านประสบปัญหาหรือมีภาระใดๆ ให้ต้องช่วยเหลือบ้าง ดังนั้นหลังจากนี้ขอประชาสัมพันธ์ ให้เข้ามาหารือกันเพื่อช่วยกันบรรเทาปัญหาของแต่ละท่าน ขณะนี้ในส่วนของ สำนักงานเขตบางขุนเทียนมีลูกหนี้เข้ามาติดต่อแล้วจำนวน 394 ราย อยู่ระหว่างหามาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน.
//////