วันที่ 6 มิถุนายน 2567 : พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร เปิดเผยว่า คณะทำงานฯ ขอขอบคุณตำรวจจราจรในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ระยอง และชลบุรี,ตำรวจทางหลวง,ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ กองบังคับการตำรวจจราจร ที่ร่วมอำนวยความสะดวกการจราจรเร่งนำส่งอวัยวะหัวใจส่งโรงพยาบาลศิริราช ดวงที่ 97 และขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมืออย่างดีตลอดเส้นทางในการเปิดทางให้กับรถฉุกเฉิน จึงนำส่งได้ทันเวลาทำให้ภารกิจส่งต่อชีวิตใหม่ในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี พร้อมกันนี้ชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ของทีมตำรวจจราจรทุกนายที่มีส่วนร่วมในภารกิจนี้อย่างอย่างมืออาชีพ มีทักษะคล่องแคล่ว สามารถให้ความช่วยเหลือ เป็นที่พึ่งของประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งถือเป็นหนึ่งตัวอย่างของตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตอาสาบริการ มีมาตรฐานสากล ตามแนวทางการสร้าง “สุภาพบุรุษจราจร” ที่คณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจรกำลังขับเคลื่อนสร้างมาตรฐานตำรวจจราจรทั่วประเทศ เพื่อยกระดับการบริการประชาชน สร้างความเชื่อถือศรัทธา และนำไปสู่การลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในที่สุด
โดยเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 12.20 น. พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำกับดูแลงานจราจร สั่งการให้ตำรวจจราจรและตำรวจทางหลวงตลอดเส้นทางตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลต้นทางใน จ.จันทบุรี ถึงโรงพยาบาลศิริราช ได้ร่วมกันอำนวยความสะดวกการจราจร โดยทำหน้าที่รถนำให้แก่รถพยาบาลของโรงพยาบาลศิริราช ในการนำส่งหัวใจที่ได้รับการบริจาคไปปลูกถ่ายให้กับผู้รอรับบริจาค เพื่อส่งต่อโอกาสและชีวิตใหม่ให้กับผู้ป่วย และด้วยความร่วมมือในครั้งนี้จากตำรวจจราจรทุกทางร่วมทางแยก และความร่วมมืออย่างเต็มที่จากประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนที่เปิดทางให้ จึงใช้เวลาเดินทางทั้งหมดเพียง 2 ชั่วโมง 19 นาที ในระยะทางเกือบ 300 กิโลเมตร นำส่งถึงมือแพทย์ที่รออยู่ในห้องผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อยทันเวลา
นอกจากนี้ พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวว่า กรณีนำส่งอวัยวะหัวใจในครั้งนี้นับเป็นรายที่ 97 แล้ว ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินำส่งอวัยวะลุล่วงจนแพทย์สามารถปลูกถ่ายหัวใจ ต่อชีวิตใหม่ให้กับผู้รับบริจาคได้ ซึ่งการนำส่งอวัยวะหัวใจนั้น ถือเป็นภารกิจที่สำคัญ เนื่องจากผู้บริจาคอวัยวะหัวใจ และครอบครัวของผู้บริจาคยอมมอบบริจาคหัวใจ เพื่อส่งต่อโอกาสและชีวิตใหม่ให้กับผู้รอรับบริจาค ซึ่งระยะเวลานับจากเวลาที่ปิดทางเดินเลือดในการผ่าตัดหัวใจของผู้บริจาค จนกระทั่งเปิดให้เลือดผ่านหัวใจใหม่ในร่างกายของผู้รับการปลูกถ่ายผ่าตัดหัวใจของผู้บริจาค มีเวลาเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น จึงเป็นภารกิจที่ต้องแข่งกับเวลา
ทั้งนี้ ขณะนี้ยังมีผู้รอรับการบริจาคอวัยวะอยู่ประมาณ 7,000 คนทั่วประเทศ จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วย โดย 1 ผู้ให้ สามารถช่วยได้ 8 ชีวิต การบริจาคอวัยวะแก่เพื่อนมนุษย์ คือที่สุดแห่งการให้ โดยตำรวจจราจรพร้อมสานต่อเจตนารมณ์ของผู้บริจาค และเติมเต็มความหวังของผู้รับบริจาค เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชีวิตใหม่ อำนวยความสะดวกนำทางส่งต่ออวัยวะสำคัญ และหากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อประสานงานตำรวจโครงการพระราชดำริฯ ได้ที่สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197