“…ให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินของ นายวิษณุ เครืองาม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ถึงสมัยรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อตรวจสอบว่าเหตุใด นายวิษณุ เครืองาม รับราชการปกติ ลำพังเงินเดือนทางราชการหรือเบี้ยประชุมหรือเงินจากทางราชการจะร่ำรวยมากมายขนาดนี้หรือ? ซึ่งท่านแจ้งบัญชีทรัพย์สินเมื่อคราวพ้นตำแหน่งไว้ที่ปปช.จำนวน 118 ล้านบาทเศษ..”
เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2567 นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือที่สำนักงาน ปปช. เรื่อง ขอร้องเรียน นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรีและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ส่อว่าร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ ถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ปปช. ผ่านงานสารบรรณ สำนักงาน ปปช ในหนังสือร้องเรียนระบุว่า ในฐานะประชาชนผู้เสียภาษี มีความประสงค์ให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินของ นายวิษณุ เครืองาม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ถึงสมัยรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และปัจจุบันดำรงตำแหน่งราชบัณฑิตสาขาวิชากฎหมายปกครอง และที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี (นายเศรษฐา ทวีสิน) ด้านกฎหมายและระเบียบปฏิบัติราชการ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 205/2567 ลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 และบุคคลที่เกี่ยวข้องส่อว่าร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ ซึ่งท่านแจ้งบัญชีทรัพย์สินเมื่อคราวพ้นตำแหน่งไว้ที่ปปช.จำนวน 118 ล้านบาทเศษ
ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนให้ข้าพเจ้าร้องเรียนกับสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบว่าเหตุใด นายวิษณุ เครืองาม รับราชการปกติ ลำพังเงินเดือนทางราชการหรือเบี้ยประชุมหรือเงินจากทางราชการจะร่ำรวยมากมายขนาดนี้หรือ โดยส่วนตัวข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านสุจริต ไม่ได้ว่าท่านทุจริต เพียงแต่พี่น้องประชาชนมีข้อเคลือบแคลงสงสัย ดังนั้นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายจึงขอให้สำนักงาน ป.ป.ช. ตรวจสอบว่าร่ำรวยโดยปกติหรือไม่ ตามอำนาจหน้าที่และกฎหมาย ป.ป.ช. ต่อไป
“สุทธิ อสุทธิ ปัจจัตตัง นาญโญ อัญญัง วิโสธเย” ความบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตน บุคคลหนึ่งจะยังอีกบุคคลหนึ่งให้บริสุทธิ์หาได้ไม่
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการ หากผลเป็นประการใดโปรดแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบด้วย จะขอบคุณยิ่ง
ทั้งนี้ นายวัชระ ยังกล่าวอีกว่า “การที่ นายวิษณุ มารับตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีแล้วอ้างว่าไม่ได้ตระบัดสัตย์นั้น ท่านอาจารย์เป็นถึงราชบัณฑิต ก่อนหน้านี้พูดว่าปิดประตูการเมือง แล้วมาแถข้างๆ คูๆ แบบนี้ก็สุดแท้แต่ท่านผู้ชม สมัยที่ท่านเป็นรองนายกรัฐมนตรีเคยกระทำอนันตริยกรรมกับสมเด็จพระสังฆราชไว้ใช่หรือไม่ เคยก้าวล่วงศาสนาจักรไว้ใช่หรือไม่ ขอให้ท่านทำแต่กรรมดีเถิด”