เอกชนตราดไม่เห็นแก่ตัว ขอปิดแหล่งดำน้ำอีก 4 เดือน ยอมลดรายได้-ฟื้นฟูปะการัง
จากกรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ประกาศปิดอุทยานแห่งชาติจำนวน 7 แห่ง เพื่อฟื้นฟูปะการังที่เกิดฟอกขาวเสียหายอย่างหนัก โดยในส่วน จ.ตราด ได้ปิดแหล่งดำน้ำดูปะการังในหมู่เกาะช้างจำนวน 3 เกาะคือ เกาะกระ เกาะทองหลาง และเกาะเทียน
นางสาวจารุวรรณ จินตกานนท์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราด กล่าวว่า การปิดแหล่งดำน้ำดูปะการัง 3 เกาะในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างนั้นเป็นการปิดโดยใช้กฎหมายยังคับให้ปิด ทั้งนี้เพราะปะการังทั้ง 3 เกาะนั้นเป็นแหล่งดำน้ำสำคัญของหมู่เกาะช้างได้รับความเสียหายมากจนต้องได้ รับการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน หากไม่ปิดปะการังจะถูกทำลายโดยสิ้นเชิง ซึ่งทางสมาคมฯเห็นด้วย อีกทั้งการออกไปสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวทั้งในเกาะ ช้าง,เกาะกูด และเกาะหมาก ทั้งหมดเห็นด้วย และพร้อมเสียสละรายได้ที่จะได้จากการนำนักท่องเที่ยว ไปดำน้ำดูปะการังไปตลอด 4 เดือน (มิ.ย.-ก.ย.)
โดยสมาคมฯและผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้งหมดที่ร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2553 ไม่ต้องการให้ปิดเพียง 3 เกาะ แต่จะใช้กฎบ้านที่เป็นมติของพวกเราทั้งหมด ปิดหมู่เกาะรัง ที่เป็นแหล่งดำน้ำดูปะการังสำคัญที่สุดของหมู่เกาะช้างต้องปิดด้วยเป็นเวลา 4 เดือน เพื่อให้ปะการังได้รับการฟื้นฟูเพราะ ที่ผ่านมาปะการังถูกปรากฏการณ์ลานินญ่าทำลายไปกว่า 60% ที่เหลืออยู่ แม้รอดแต่ก็อยู่ในอาการสาหัส หากผู้ประกอบธุรกิจยังนำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำอีกทั้ง หมดจะตายหมดและไม่สามารถฟื้นฟูได้อีกต่อไป
นายกสมาคมฯกล่าวว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะช้างมีมติร่วมกันคือเป็นกฎบ้านที่ดีกว่า กฎหมายและทุกคนทำเพื่อปกป้องปะ การัง ซึ่งเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการท่องเที่ยวก็ใช้กฎบ้านไม่ ให้มีการนำเจ็ตสกีและบานาน่าโบ๊ทเข้ามาในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง รวมทั้งเกาะหมาก และเกาะกูด ซึ่งได้ผลดี และยังเป็นกฎบ้านที่ศักดิสิทธิ์และมีผลทางปฏิบัติมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง
เกาะกระ
เกาะทองหลาง
เกาะเทียน
ข้อมูลจาก: กรมทรัพย์ทางทะเลและชายฝั่ง