ความคืบหน้า แก้งทวงหนี้โหดบุกตามทำร้ายร่างกายลูกหนี้ กลางงานวัดได้รับบาดเจ็บสาหัส ตำรวจเร่งล่าตัวดำเนินคดี
จากกรณี เพจอยากดังเดียวจัดให้พลาส 6 โพสต์ การใช้ความรุนแรงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเป็นหนี้ต้องชดใช้แต่การทำร้ายร่างกายกันมันไม่สมควรสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นภายในวัดไลย์ ตำบลเขาสมอคอน อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ได้เกิดเหตุเจ้าหนี้โหด บุกทวงหนี้ลูกหนี้ขณะเดินซื้อกลับข้าวภายในวัดไลย์ ซึ่งอยู่ในช่วงงานประเพณีชักพระศรีอริยเมตไตรย
พ.ต.อ.วรพันธุ์ พิสุทธานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ได้ลงพื้นที่มาสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง พร้อมเปิดเผยว่า หลังจากสอบปากคำผู้เสียหายแล้ว พบว่ากรณีดังกล่าวตำรวจเองไม่ได้นิ่งนอนใจมีการปราบปรามมาโดยตลอด ส่วนเจ้าหนี้โหดรายนี้ทางตำรวจทราบแล้วว่าเป็นใครอยู่ในพื้นที่อำเภอบ้านหมี่ แต่จะมาปล่อยเงินกู้ในพื้นที่ของตำบลท่าโขลง อำเภอท่าวุ้ง ซึ่งเป็นฐานที่มีลูกหนี้อยู่เยอะ โดยขอเวลาให้ทางตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานอีกเล็กน้อยจะนำตัวเจ้าหนี้โหดรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้
รองผู้บังคับการบอกต่อว่า ส่วนอีกคลิปที่มีการทำร้ายร่างกันเป็นเจ้าหนี้โหดรายเดียวกันแต่คนละเรื่องไม่ใช้เรื่องทวงหนี้แต่อย่างใดเพราะจากการตรวจสอบแล้วเป็นเรื่องเก่าของเมื่อเดือนที่แล้วและไม่มีการแจ้งความแต่อย่างใด
โดยความคืบหน้าเมื่อเวลา 10 นาฬิกาของวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่สถานีตำรวจภูธรท่าโขลงทราบว่าได้มีการเรียกตัวเจ้าหนี้โหดรายนี้มาที่สภ.ตั้งแต่เวลา 08:00 น. แต่ยังไม่มา จึงมีการประสานไปยังสถานีตำรวจภูธรบ้านหมี่ เพื่อให้พาเจ้าหนี้คนดังกล่าวมาที่สภ.ท่าโขลง ทางเจ้าหนี้ได้แจ้งเบื้องต้นว่ายังไม่สะดวกวันนี้ ขอเลื่อนนัดเป็นวันพรุ่งนี้ รอยืนยันจากทางสถานีตำรวจภูธรบ้านหมี่
โดยเมื่อเวลา 13 นาฬิกา เจ้าหนี้รายดังกล่าวและลูกหนี้นางขวัญใจ ฉัตรทอง ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรท่าโขลงพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบ้านหมี่ โดยเมื่อมาถึงได้แยกห้องสอบปากคำทั้ง 2 ฝ่าย มีพลตำรวจเอกภูการวิก โชติกเสถียร รองผู้บัญชาการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ,พลตำรวจตรีโชคชัย งามวงศ์ รองผู้บัญชาการภาค1 ,นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี และกรมปกครอง พร้อมเข้าตรวจค้นบ้านของเจ้าหนี้รายดังกล่าว ที่บ้านเลขที่ 193 หมู่ 4 ตำบลบางผึ้ง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย โดยทางสถานีตำรวจภูธรท่าโขลงได้แจ้งข้อหาทั้งหมด 4 ข้อหา ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ,การประกอบธุรกิจสินเชื่อที่ผิดกฎหมาย ,ผิด พ.ร.บ.เรื่องการทวงหนี้ และการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ส่วนสถานีตำรวจภูธรบ้านหมี่แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ หลังจากนี้จะมีการดำเนินคดีต่อไป
เจ้าหนี้รายดังกล่าวไม่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวใดๆ
นันท์นภัส ลิ้มนุสนธิ์
ผู้อำนวยการ
ศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ