ผบ.พล.ม. 2 รอ. แจง เพิ่มมาตรการ รปภ.สถานที่ราชการ-ชุมชน-แหล่งท่องเที่ยวทุกพื้นที่เข้ม หลังคนร้ายลอบบึ้มรพ.พระมงกุฎเกล้า เผยไม่คิดว่าจะก่อเหตุในพื้นที่แบบนี้ รับเป็นไปได้จม.ที่เตือนก่อนเป็นของ BRN วอนปชช.ช่วยเป็นหูเป็นตาปิดช่องโหว่คนไม่หวังดีจ้องก่อเหตุ ระบุต้องระวังแต่อย่าตื่นตระหนก ขอปชช.มั่นใจใช้ชีวิตตามปกติ
วันนี้ 24 พ.ค.60 เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 24 พ.ค. ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.) สนามเป้า พล.ต.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.พล.ม. 2 รอ. กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่ามีผู้หวังดีส่งจดหมายเตือนล่วงหน้า 3 วันก่อนที่จะเกิดเหตุที่รพ.พระมงกุฎเกล้าว่า เป็นข้อมูลที่เปิดเผยภายหลังแล้ว ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้นเจ้าหน้าที่ดูแลพื้นที่ทั่วไป เช่น แหล่งท่องเที่ยว แหล่งชุมชน และพื้นที่สาธารณะ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่า สถานพยาบาล ศาสนสถาน และโรงเรียนไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่คิดว่าจะมีการก่อเหตุ ดังนั้นเมื่อมีการก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวก็ต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น ขอให้มั่นใจว่าเราสามารถป้องกันเหตุร้ายได้ โดยเฉพาะสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาการได้เน้นย้ำเรื่องกล้องวงจรปิด ซึ่งจะมีประจำอยู่แต่ละจุดผ่านเข้าออกต่างๆ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าจดหมายดังกล่าวเป็นของกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นที่ขึ้นมาก่อเหตุในพื้นที่กทม.นั้น ก็มีความเป็นไปได้ในแต่ละกลุ่มที่มีขีดความสามารถในการก่อเหตุ จากข้อมูลสายข่าวก็มีอยู่กลุ่มสองกลุ่ม
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพปรากฏชาย 3 คนอยู่ภายในห้องเดียวกับที่มีแจกันระเบิดนั้นจะมีความเชื่อมโยงหาตัวคนร้ายได้หรือไม่ พล.ต.เฉลิมพล กล่าวว่า ต้องหารือกับเจ้าหน้าที่ด้านสืบสวนสอบสวน ตนทราบมาว่าภาพดังกล่าวถูกถ่ายมาจากการเซลฟี่ของผู้ที่เข้าไปใช้บริการโรงพยาบาล ซึ่งจากการตรวจสอบบุคคลในภาพทราบว่าเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บด้วย เมื่อถามอีกว่าในส่วนของพื้นที่ที่เป็นบ้านพักของผู้บังคับบัญชาจะมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างไร เพราะอาจตกเป็นพื้นที่เป้าหมายในการก่อเหตุได้อีก พล.ต.เฉลิมพล กล่าวว่า เรามีมาตรการดูแลอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่าหลายพื้นที่เราดูแลได้ไม่หมด เช่น การก่อเหตุระเบิดภายในซอยที่อยากให้เกิดเหตุ แต่ไม่ได้หวังผลความเสียหายก็เป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับจากนี้ก็จะเน้นการดูแลรักษาความปลอดภัยในเขตชุมชนต่างๆมากขึ้น
เมื่อถามว่าพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับทหารจะตกเป็นเป้าในการก่อเหตุหรือไม่ พล.ต.เฉลิมพล กล่าวว่า จะต้องเพิ่มเติมมาตรการรักษาความปลอดภัยทุกพื้นที่ที่เป็นสถานที่ราชการทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะในส่วนของพื้นที่ทหาร แต่ในพื้นที่สถานที่ราชการต่างๆก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของแต่ละหน่วยงานทำหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว เช่นการตรวจรถและคนเข้าออกสถานที่ การติดกล้องวงจรปิด ดังนั้นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่จะมุ่งเน้นรักษาความปลอดภัยคือพื้นที่สาธารณะและศูนย์การค้า ที่จะต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าสามารถดำเนินใช้ชีวิตได้ตามปกติ
เมื่อถามว่าจะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนอย่างไร เพราะยังไม่สามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้ พล.ต.เฉลิมพล กล่าวว่า ที่ผ่านมาลักษณะของการคุกคามมุ่งกระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐและสถานที่ต่างๆ โดยไม่ได้กระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ เมื่อเป็นแบบนี้เจ้าหน้าที่ก็ต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น แต่พี่น้องประชาชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ จากที่เมื่อก่อนอยู่กันแบบไม่สนใจใครก็จะทำให้เกิดช่องโหว่ที่คนไม่หวังดีจะเข้ามาก่อเหตุได้ ในเวลานี้ทุกคนต้องตระหนักเรื่องเหล่านี้เพราะส่งผลกระทบต่อสังคมโดยร่วม เราต้องระมัดระวังแต่อย่าตื่นตระหนัก