ศาลอนุมัติหมายจับมือยิง “ไม้หนึ่ง” อดีตแกนนำเสื้อแดง ตามสภาพสเก็ต เป็นชาย2ราย ไม่ทราบชื่อ
ศาลอนุมัติหมายจับมือยิง’ไม้หนึ่ง’
กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 24 ก.ค.2557
ภายหลังการประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อติดตามเร่งรัดคดี
การกระทำผิดเกี่ยวกับคดีความมั่นคงต่างๆ รวมทั้งอาวุธสงคราม และคดีการกระทำความผิดฐานหมิ่นสถาบันฯ
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า กรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวน
ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายกมล ดวงผาสุข หรืออี๊ด อิสรนาวี หรือไม้หนึ่ง ก.กุนที เสียชีวิตบริเวณลาน
จอดรถร้านอาหารครกไม้ไทยลาว เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น จากการสืบสวน และรวบรวมพยาน
หลักฐาน ตามคำบอกเล่าของพยาน 2 คนที่เห็นหน้าคนร้าย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน
เพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาตามภาพสเก็ต เป็นชาย2 ราย ไม่ทราบชื่อจากศาลจังหวัดมีนบุรี
ซึ่งศาลได้อนุมัติแล้ว ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
“จากการสืบสวนของตำรวจ ยังพบว่า มีหลักฐานชี้ชัดว่า นายกมล ผู้ตายมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาวุธ
สงคราม ที่นำมาก่อเหตุความไม่สงบในหลายคดี ในเขตพื้นที่ในนครบาล ซึ่งเรื่องนี่ทางพนักงาน
สอบสวนก็จะต้องกล่าวหาผู้ตายไว้ก่อน ส่วนจะดำเนินคดีอย่างไรนั้น จะต้องสอบถาม
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ.ช่วยราชการ บช.น. ทั้งนี้จะเร่งติดตามผู้ต้องที่ถูกหมายจับ
ทั้ง 2 รายมาสอบสวนขยายผลต่อไป. ”
รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในที่ประชุม ยังมีการวางแผน เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย
ระหว่างวันที่ 25 ก.ค. ซึ่งเป็นวันอัลกุดส์สากล หรือวันแห่งการปลดปล่อย“อัลกุดส์” ซึ่งอาจมีการชุมนุม
เกิดขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ พร้อมกำหนดแนวทาง เพื่อดูแลพื้นที่ต่าง ๆตามปกติ
โดยมีการจัดกำลัง (คฝ.1 กองร้อย) ชุดเคลื่อนที่เร็วฝ่ายสืบสวน จำนวน 80 นาย เพื่อดูแลรักษาความสงบ
ตามบริเวณโดยรอบสถานทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย และธนาคารอิสลาม สาขาอโศก บ้านพัก
เอกอัครราชทูต และคณะทูต เอกอัครราชทูต ส่วนการจัดงานคืนความสุขสู่ประชาชนนั้น เชื่อว่าจะไม่มีคน
ที่มีความคิดเห็นต่างมาดำเนินการใด ๆให้เกิดปัญหา เพราะตนเชื่อว่า สิ่งที่ คสช.ได้ทำไปตลอดระยะเวลา
ที่ผ่านมา เพื่อต้องการให้ประชาชนเกิดความสามัคคี และให้บรรยากาศเข้าสู่การปรองดอง ใครที่จะมากระทำ
การใดๆ ให้เกิดปัญหา ประชาชนส่วนใหญ่คงทราบว่า กลุ่มคนเหล่านั้น มีเจตนาที่จะแสดงออกอย่างไร
