17 พฤษภาคม 2567 เวลา 08.30 น. ที่ห้องรับรองพิเศษ ชั้น 2 อาคาร 1 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นายสืบพงษ์ นิ่มพูลสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้การต้อนรับ นายระห์หมัด บูดีมัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย พร้อมนายมารวิน อันวาร อัรปัน อัครราชทูตที่ปรึกษาสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศ และนายสุไลมาน นารอวี เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้าเยี่ยมคาราวะและแนะนำตัว อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งหารือขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาท้องถิ่นและจังหวัด โดยมี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเพชรบูรณ์ อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์ พาณิชย์จังหวัดเพชรบูรณ์ และ หอการค้าจังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมให้การต้อนรับและหารือ
นายสืบพงษ์ นิ่มพูลสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า จังหวัดเพชรบูรณ์รู้สึกยินดีที่ท่านเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทยได้มาร่วมหารือ ขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาท้องถิ่นและจังหวัด ซึ่งจังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อก่อน เคยเกือบจะเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และล่าสุดที่เป็นความภูมิใจของชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ เมืองโบราณศรีเทพของเราได้รับการประกาศเป็นมรดกโลก นอกจากนี้ด้านการขนส่ง จังหวัดเพชรบูรณ์เป็นจังหวัดที่อยู่ตรงกลางของประเทศ ซึ่งเป็นจุดสำคัญของการขนส่ง East–West Economic corridor ด้านการท่องเที่ยวด้วยจังหวัดของเรา อยู่ไม่ไกลกรุงเทพ ทำให้นักท่องเที่ยวนิยม มาเที่ยวเมืองโบราณศรีเทพ มรดกโลก และ เขาค้อ ภูทับเบิก ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้รายได้ภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการเริ่มปรับตัวสูงขึ้น แต่เราก็อยากให้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากขึ้น และยินดีต้อนนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซีย
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวต่อว่า ด้วยสภาพพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้ด้านการเกษตร จังหวัดเพชรบูรณ์ปลูกพืชได้หลากหลายและมีคุณภาพดี อาทิ มะขามหวาน มะม่วง กะหล่ำปลี ข้าว แมคคาเดเมีย อโวคาโด ใบยาสูบ สำหรับด้านอุตสาหกรรม จังหวัดเพชรบูรณ์ยังมีโรงงานชำแหละไก่ส่งออกทั่งในและต่างประเทศ ซึ่งเราคาดหวังในอนาคตจังหวัดเพชรบูรณ์จะเป็นครัวให้ประเทศอินโดนีเซีย
ด้านนายระห์หมัด บูดีมัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ได้กล่าวขอบคุณจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น การมาจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นจังหวัดที่ 50 ของประเทศไทย ซึ่งในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ได้กล่าวชื่นชมจังหวัดเพชรบูรณ์ ทั้งด้านการท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และผลผลิตทางการเกษตร โดยประเทศอินโดนีเซียได้นำเข้าข้าว และน้ำตาลจากประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ นอกจากนี้ยังได้ชื่นชมด้านธุรกิจการลงทุนของจังหวัดเพชรบูรณ์ว่ามีโอกาสและศักยภาพ ในอนาคตธุรกิจไทยกับอินโดนีเซีย หวังว่าสภาอุตสาหกรรม และหอการค้า จะได้ติดต่อประสานธุรกิจร่วมกัน