พีช เผยว่า “จริง ๆ ผมควรจะรู้จักเขามานานแล้ว เราเคยเจอกันแบบผ่าน ๆ มาตลอดแต่ไม่เคยคุยกันเลย ทั้งที่พ่อเขาก็ทำงานอยู่ที่ใกล้ ๆ กัน ไป ๆ มา ๆ ได้เจอกันอีก ผมรู้สึกโอเคก็เดินหน้าจีบเลย ด้วยความที่ส่วนตัวเราชอบฝรั่งมาโดยตลอด แล้วเขาโตมาแบบฝรั่งด้วย”
ตั้งแต่เปิดตัวว่าคบกัน หนุ่ม พีช-พชร จิราธิวัฒน์ กับสาว แพทริเซีย-ธัญชนก กู๊ด ก็ขยันโพสต์ รูปสวีทให้แฟน ๆ ได้เห็นตลอด แต่หลายคนก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าทั้งคู่แอบไปปิ๊งรักกันตอนไหน ล่าสุดมีโอกาสเจอพีชมาร่วมงาน “เดอะ คอมพลีทชั่น ออฟ เซ็นทรัลเอ็มบาสซี แอนด์ ดิ แกรนด์ โอเพนนิ่ง ออฟ พาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ” เจ้าตัวเลยถือโอกาสอัพเดทความรักกับสาวแพทให้ฟังแบบไม่มีกั๊ก เพราะรักครั้งนี้แฮปปี้สุด ๆ จริงจังถึงขั้นทำงานเก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัวเพื่ออนาคตเลย
พีช เผยว่า “จริง ๆ ผมควรจะรู้จักเขามานานแล้ว เราเคยเจอกันแบบผ่าน ๆ มาตลอดแต่ไม่เคยคุยกันเลย ทั้งที่พ่อเขาก็ทำงานอยู่ที่ใกล้ ๆ กัน ผมเจอพ่อเขาบ่อยมาก จนเคยไปทำงานด้วยกันครั้งนึง แต่ยังไม่ได้อะไร แล้ว ไป ๆ มา ๆ ได้เจอกันอีก ผมรู้สึกโอเค ก็เดินหน้าจีบเลย ด้วยความที่ส่วนตัวเราชอบฝรั่งมาโดยตลอด แล้วเขาโตมาแบบฝรั่งด้วย เขาจะ มีความคิดอีกแบบ ที่ไม่ค่อยจุกจิก คิดเยอะ เลยอยู่ด้วยกันได้ คนอาจจะบอกว่าแม่แพทค่อน ข้างหวง แรก ๆ ที่เจอคุณแม่ก็มีเกร็งบ้าง แต่ผมไม่ได้ทำอะไรไม่ดี ส่วนแม่ผมก็ไม่หวงเพราะผมแก่แล้ว ความจริงแม่รู้เรื่องก่อนจะมีข่าวแป๊บเดียว เพราะเราชิงบอกก่อน (ยิ้ม) เรารู้อยู่แล้วว่ายังไงก็หนีไม่รอด โต ๆ กันแล้วก็ไม่อยากใช้ชีวิตลำบาก ซึ่งเขาเองก็รู้สึกว่าโกหกไปก็ไม่มีประโยชน์ การมีแฟนไม่ใช่เรื่องผิดและไม่ใช่ความลับ ความรักเป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าเราอยากอยู่กับเขา ก็ต้องให้เกียรติเขาด้วย แต่ผมเองก็ไม่ได้คิดว่าเปิดตัวแล้วกลายเป็นข่าวฮือฮาขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้คิดมาก ก็ใช้ชีวิตปกติ ผู้ใหญ่ก็ไฟเขียวครับ”
ล่าสุดที่เห็นแพทไปทานข้าวกับครอบครัวผม พอดีวันนั้นเป็นวันเกิดผม เขาก็นัดกับที่บ้านผม ไปเจอกันที่หน้าร้านอาหาร โดยที่ผมไม่รู้ตัว คือเขาคงอยากทำเซอร์ไพร้ส์ แต่ก็เกือบล้มเหลวเหมือนกันเพราะมีบางจังหวะที่ไม่เนียนเท่าไหร่ ส่วนของขวัญเขาซื้อเป็นบัตรคอนเสิร์ตให้ครับ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าแม่ผมแฮปปี้กับแพทไหม แต่เขาก็ถามเรื่อย ๆ ว่าเป็นยังไง โอเคไหม ซึ่งผมรู้สึกว่าชีวิตเปลี่ยนไปเยอะ ตั้งแต่ปีที่แล้วที่ผมเลิกกับคนเก่า และเราโตขึ้นด้วย ไม่ได้มองแค่ป๊อปปี้เลิฟแล้ว เพราะชีวิตต้องเริ่มมีหลัก เริ่มวางแผนชีวิตตัวเองและเก็บตังค์ เรื่องแบบนี้ ผมไม่อยากมานั่งเสียเวลาคุยกับใคร หรือต้องนั่งทะเลาะกัน ครั้งนี้คิดว่าคงจริงจังมองถึงอนาคตแล้ว เพราะผมก็แฮปปี้กับเขานะ ไลฟ์สไตล์เราอาจจะไม่ได้เหมือน กันมาก แต่เราอยู่ด้วยกันได้ ไม่ต้องพยายามปรับตัวเข้าหากันด้วย แล้วก็ไม่ได้หวานนะ เป็นปกติแบบที่คนอื่นเขาก็ทำ ที่เรียกกันว่า “พ่อหมู-แม่หมู” เพราะว่ากินเยอะเท่านั้นครับ