แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาแถลงรายการณ์ เกี่ยวกับรายได้ประจำไตรมาสแรก หรือ 3 เดือนแรกของปีนี้ ช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2560 อย่างเป็นทางการว่า สโมสรประสบภาวะขาดทุน 3.8 ล้านปอนด์ หรือ ประมาณ 171 ล้านบาท ซึ่งหากเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่แล้ว ที่สามารถทำกำไรได้เป็นเงิน 13.7 ล้านปอนด์ หรือ ประมาณ 616.5 ล้านบาท
แมนฯ ยูนเต็ด ชี้แจงว่า ภาวะขาดทุนดังกล่าวมาจาก 2 เงื่อนไขสำคัญ คือ 1. การลงทุนซื้อตัวนักเตะที่มากขึ้น และมีราคาสูงขึ้น 2. อัตราแลกเปลี่ยนเงินปอนด์ ที่ผันผวนตกต่ำอย่างหนัก ในการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือ (อียู) ของสหราชอาณาจักร แต่ ปีศาจแดง ยังมั่นใจว่า รายได้ประจำปีนี้จะได้เพิ่มมากขึ้น จนทำให้มีกำไรแน่นอน เพราะไตรมาสแรกปีนี้ มีรายได้เพิ่มขึ้น 3% รวมเป็นเงิน 127.2 ล้านปอนด์ หรือ ประมาณ 5,724 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายรายได้รวมของปีนี้อยู่ที่ 560-570 ล้านปอนด์ หรือ ประมาณ 25,200 ถึง 25,650 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เร้ด เดวิลส์ ยังมีภาวะเสี่ยงด้านรายได้ตามพันธะสัญญาอีกมากพอสมควร โดยเฉพาะสัญญากับ อาดิดาส ผู้สนับสนุนชุดแข่งขัน ฝึกซ้อม และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ระบุว่า หาก แมนฯ ยูฯ ไม่สามารถเข้าแข่งขันรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ละปีได้ จะถูกลดเงินสนับสนุนต่อปีลง ปีละ 30% ซึ่ง ปีศาจแดง ถูกลดเงินไปแล้ว หนแรกเมื่อปีที่แล้ว โดยปีนี้พวกเขา ต้องลุ้นคว้าแชมป์ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก มาครองให้ได้ โดยจะพบกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม รอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2560 เพราะทีมแชมป์จะได้สิทธิ์แข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า