หนุ่มน.ศ.ปริญญาเอกเหยื่อเมียดุขับฟอร์จูนเนอร์ไล่ชน เบนซ์ผัว-กิ๊ก ชุลมุนกลางถนนรังสิต-นครนายก จนมีรถคนอื่นพังเสียหายไปด้วยรวม 5 คัน บาดเจ็บอีกหลายราย โวยนอนเจ็บอยู่โรงพยาบาลแต่คู่กรณียังไม่ยอมแสดงความรับผิดชอบ ด้านตำรวจสอบปากคำเสี่ยเจ้าของรถเบนซ์สีขาว และผู้เสียหายอีก 2 ราย แต่คนก่อเหตุเผ่นไปลำปาง ยังไม่เข้าพบพนักงานสอบสวน เบื้องต้นยังไม่สรุปว่าสาเหตุจากอุบัติเหตุหรือจงใจ
จากกรณีอุบัติเหตุระทึกรถชนกันรวม 5 คัน ขวางถนนรังสิต-นครนายก ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย เบื้องต้นทราบว่าสาเหตุจากหญิงสาวรายหนึ่งสงสัยสามีจะมีกิ๊กแอบติดจีพีเอสที่รถ ก่อนสะกดรอยตามจนเห็นคาตาว่าพากิ๊กขึ้นเบนซ์ จึงขับรถฟอร์จูนเนอร์ไล่ชนดะจนรถคันอื่นเสียหายไปด้วย ขณะที่ทนายความชื่อดังระบุหากโดนข้อหาเจตนาขับชนและขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่นมีโทษถึงติดคุก ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 พ.ค. พ.ต.ท.บุญยิ่ง บัณฑิตไทย สว.(สอบสวน) สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เผยว่า ร.ต.อ.ประพันธ์ เรืองสุวรรณ์ รองสว.(สอบสวน) เรียกตัว ผู้เสียหายทั้งหมดในเหตุการณ์มาสอบปากคำเพิ่มเติมจำนวน 3 ราย ประกอบด้วยคนขับรถเบนซ์ 1 ราย, นางศิวาพร วิไลโรจน์ คนขับรถมาสด้า และน.ส.สุคน กาละสังข์ อายุ 27 ปี คนขับรถยนต์โตโยต้าอแวนซ่า สีขาว ยังเหลือนายวศิลป์ ทองคำสุข คนขับรถฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ผู้เสียหายอีก 1 ราย และเจ้าของรถฟอร์จูนเนอร์สีดำคันที่ก่อเหตุ แต่นัดให้เข้าปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นอ้างว่าไปอยู่ที่ จ.ลำปาง
พ.ต.ท.บุญยิ่งกล่าวว่า จากอุบัติเหตุดังกล่าว มีรถยนต์ที่ประสบเหตุทั้งหมด 5 คัน ผู้บาดเจ็บอาการหนักที่สุด คือผู้หญิงที่นั่งมากับรถเบนซ์ สีขาว ที่ถูกพุ่งชนเป็นคันแรกมีอาการกระดูกแขนหลุด ถูกนำตัวส่ง ร.พ.เปาโล-รังสิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บราย อื่นๆ ยังคงมีนอนรักษาตัวที่ร.พ.บางปะกอก-รังสิต 2 ส่วนที่เหลือแพทย์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนให้กลับไปพักที่บ้านแล้วทั้งหมด สำหรับเรื่องของประกันภัยเกี่ยวกับการชดใช้ค่าเสียหาย ขณะนี้ยังไม่ได้มีการชดใช้ให้กับผู้เสียหายให้ขนาดไหน เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียด
ส่วนของเรื่องความหึงหวงแล้วก่อเหตุหรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนที่แน่ชัดอย่างละเอียด ว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาดำเนินการตั้งข้อหาเอาผิดกับคู่กรณีที่ก่อเหตุ ว่าเกิดจากความประมาทหรือจงใจ จนทำให้เกิดความเสียหาย แต่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานจึงยังสรุปไม่ได้ แต่เบื้องต้นความผิดเข้าข่ายการขับรถโดยไม่คำนึงความปลอดภัยกับบุคคลในท้องถนน สามารถดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายได้ ส่วนข้อหาอื่นอยู่ระหว่างการพิจารณาต่อไป
น.ส.คนหนึ่งในผู้เสียหาย เผยว่า วันเกิดเหตุกลับจากไปเที่ยวที่จ.นครนายก พร้อมเพื่อนรวม 5 คน อยู่ระหว่างเดินทางกลับบ้านพัก โดยขับรถมาทางเลนซ้ายสุดด้วยความเร็วปกติ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุเห็นรถฟอร์จูนเนอร์ขับข้ามสะพานข้ามคลองพุ่งเข้ามาชนอย่างแรงทางฝั่งซ้าย จังหวะนั้นไม่ทราบเรื่องว่าเป็นเรื่องของการไล่ขับชนกันหรือไม่ ห่วงแต่ช่วยเหลือเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บ รีบพาส่งโรงพยาบาล ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ได้รับ บาดเจ็บ เห็นสาวคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ ใส่เสื้อสีดำ ยืนโวยวายอยู่ ออกตัวว่าเป็นคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ และยอมรับผิดทุกอย่าง แต่จนถึงขณะนี้เจ้าของรถฟอร์จูนเนอร์คู่กรณี หรือประกันภัยยังไม่มีการติดต่อกลับมาหา มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เรียกให้เข้าพบเพื่อให้ปากคำเท่านั้น
ด้านนายพีรพงศ์ บุญช่วย อายุ 39 ปี นักศึกษาปริญญาเอกและเป็นนักวิจัยของอุทยานแห่งชาติวิทยาศาสตร์ (สวทช.) หนึ่งในผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลบางปะกอก-รังสิต 2 ห้องที่ 3205 เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุพร้อมกับเพื่อนอีก 5 คน ได้ไปทำธุระที่ จ.นครนายก และกำลังจะกลับที่พักย่านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต โดยนั่งอยู่ทางด้านหลังข้างซ้าย เหตุการณ์วันนั้นเร็วมาก เมื่อรถโดนชนรีบออกจากรถแล้วมีเลือดออกทางศีรษะเป็นจำนวนมาก
“วันนั้นทุกคนที่อยู่ในรถได้รับบาดเจ็บกันทั้งหมด ที่หนักสุดก็คือผม แต่ผมไม่เห็นวินาทีตอนที่รถฟอร์จูนเนอร์พุ่งชน และไม่ได้คิดอะไรเพราะวันนั้นมีฝนตกลงมาแล้วรถติดด้วย ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ หลังจากเกิดเหตุก็ยังไม่มีคู่กรณีเข้ามาดูแล หรือแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด ส่วนเรื่องของคดีนั้นอยากให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ” นายพีรพงศ์กล่าว
วันเดียวกันเฟซบุ๊กชื่อ “สุดใจร้าย” โพสต์ภาพชายหนุ่ม ซึ่งเป็น 1 ในผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางปะกอก รังสิต มีบาดแผลเย็บที่ใบหน้า พร้อมระบุว่า “ช่วยหน่อยครับ จากกรณี เมียขับรถชนรถผัวเพราะจับได้ว่ามากับกิ๊ก ที่โด่งดังไปทั่วสยามประเทศตอนนี้ ข่าวลงว่า มีผู้บาดเจ็บสาหัสรายเดียวคือ กิ๊กสาวแขนหลุด คนอื่นเจ็บเล็กน้อย
เรื่องจริงต้องนี่เลย รุ่นพี่แสนสนิทเฮียเอง อยู่ในรถอแวนซ่าสีขาว เจ็บหนักสุดเย็บ 18 เข็ม หน้าบวมนอนหยอดน้ำเกลืออยู่ ร.พ. บางปะกอก รังสิต ตอนนี้ยังไม่ได้ออกเลย ไม่มีใครหน้าไหนทั้งนั้นมาแสดงความรับผิดชอบ
ไหนจะสำนวนทางคดีอีกที่เขียนไปในทางให้พี่เฮียเป็นฝ่ายประมาทร่วม งงดิ เจอกับคนใกล้ตัว รู้ซึ้งถึงไส้ติ่งเลยครับ แม่มสังคมอยู่ยากครับ ช่วยเฮียแชร์หน่อย เผื่อเรื่องนี้จะสว่างใสกว่าที่เป็น”
วันเดียวกันเวลาประมาณ 18.00 น.หญิงสาวคนที่ขับฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน พุ่งชนรถเบนซ์ สีขาว ซึ่งเป็นรถสามี ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับร.ต.อ.ประพันธุ์ เรืองสุวรรณ ร้อยเวรสภ.ธัญบุรี โดยมีญาติๆมาเป็นเพื่อน ใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นหญิงสาวคนดังกล่าวเดินทางกลับโดยใช้เสื้อคลุมศีรษะมีเพื่อนๆประคองออกมา ขึ้นรถเก๋งฮอนด้า ทะเบียน ฆผ 1898 กรุงเทพฯ ออกไปจากสภ.ธัญบุรีทันที
พ.ต.อ.ธีรวัจน์ ขจรเกียรติภาศ ผกก.สภ.ธัญบุรี ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้คนขับรถฟอร์จูนเนอร์มาพบกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมแล้ว แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับใคร เพราะยังอยู่ในช่วงเรียกผู้เสียหายคนอื่นๆมาสอบปากคำเพิ่มเติม ต้องขอเวลาอีกระยะหนึ่ง