เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 เวลา 13.30 น. ได้มีการประชุมคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์โดย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย เป็นประธานคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ ผู้แทนสหภาพแรงงานและผู้แทนฝ่ายบริหารองค์การ อาทิ เช่น นายประมิต เมฆฉาย ประธานสหสภาพฯ นายยุทธนาแพงพงษ์ เลขาฯ นายอัษฎางค์ แสงงาม น.ส. โสภี เนียมนิยม เป็นต้น เข้าร่วมประชุม สหภาพแรงงานได้เสนอ ระเบียบวาระเพื่อพิจารณาที่สำคัญ ดังนี้
- การปรับเบี้ยเลี้ยงพนักงานเก็บค่าโดยสาร (จาก 20 บาท)
- ปรับเป็น 50 บาททำงานครบ 8 ชั่วโมง
- ปรับเป็น 100 บาททำงานครบ 10 ชั่วโมง
- ปรับเป็น 150 บาททำงานครบ 12 ชั่วโมง
(ปรับแบบขั้นบันได)
- การปรับเพิ่มเบี้ยขยันพนักงานทุกตำแหน่งที่มีสิทธิ์ได้เบี้ยขยัน (เดิม 150 บาท)
- ปรับเป็น 250 บาท
- การปรับเพิ่มการจ่ายเงินส่วนแบ่งการจำหน่ายตั๋ว ทั้งของ พนักงานเดินรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร
- พนักงานขับรถ ปรับเป็น
1-100ใบ ใบละ 10 สต.
300ใบขึ้นไป ใบละ 12 สต. - พนักงานเก็บค่าโดยสาร
1-100ใบ ใบละ 5 สต.
300ใบขึ้นไป ใบละ 10 สต.
มติที่ประชุมคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์เห็นชอบให้ปรับตามที่สาภาพแรงงานนำเสนอโดยให้นำเสนอคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การให้มีความเห็นชอบต่อไป
นายประมิต เมฆฉาย ประธานสหภาพฯ กล่าวว่า ข้อเรียกร้อง 17 ข้อ เป็นเรื่องปากท้องของพี่น้องชาว ขสมก. ซึ่งทางสหภาพได้เสนอข้อเรียกร้องและพยายามต่อสู้มาเป็นเวลานาน โดยได้ยื่นข้อเรียกร้องการ 17 ข้อให้แก่ผู้บริหารการเกิดวันที่ 20 มีนาคม 2566 ต้องขอขอบคุณท่าน พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ประธานคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ ซึ่งใส่ใจ เห็นความเดือดร้อนของพี่น้อง ขสมก. เร่งรัด การประชุมพิจารณาข้อเรียกร้องทั้งหมดจนเป็นที่เรียบร้อย
นายยุทธนา แพงพงษ์ เลขาธิการ สร.ขสมก. กล่าว ประธานคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ได้เร่งรัดการประชุมข้อเรียกร้องทั้ง 14 คันจำนวนสองครั้ง ที่สำคัญได้แก่ การพิจารณาจ่ายเงินค่าช่วยเหลือบุตรและค่าช่วยเหลือการศึกษาของบุตร ให้องค์การ เบิกสิทธิค่ารักษาพยาบาลโดยการจ่ายตรงไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยใน จัดสวัสดิการในกรณีเสียชีวิตหรืออุปสมบท ให้องการติดกล้องวงจรปิดบริเวณข้างซ้ายและขวาของรถยนต์โดยสารเพื่อลดและป้องกันอุบัติเหตุ ให้องการค์เพิ่มอัตรา พนักงานอุบัติเหตุเขตละหนึ่งคน ขอถอนข้อเรียกร้องจำนวน 3 ข้อ
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย กล่าวว่า ทางท่าน มนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เน้น การพัฒนาและยกระดับการให้บริการพี่น้องประชาชนในกรุงเทพมหานครให้ดีขึ้น
จึงได้เร่งรัดให้มีการประชุมตามข้อเรียกร้อง ดังกล่าว ในกรณีที่มีการเสนอให้มีการกำหนดระดับและปรับบัญชีเงินเดือนพนักงานฝ่ายเดินรถ( พกส.,พขร.,นต.,นท.,ชจ.สาย และ จ.สาย) แต่ละระดับให้เท่ากับพนักงานธุรการเป็นระดับเดียวกัน กรณีนี้ได้ให้นำเรื่องเสนอเข้าการปรับโครงสร้างองค์การ ปี 2567 นอกจากนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ จะได้เร่งรัด ขสมก. ให้เร่งดำเนินการแต่งตั้ง ระดับ รอง ผู้ช่วย ผอ.ขสมก. โดยให้ใช้หลักคุณธรรมพิจารณาตามอาวุโสและผลการปฎิบัติงานเป็นที่ยอมรับได้ของคนทั่วไป