“แพท”เปิดใจครั้งแรก หลังข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส. ออกหมายเรียกแจงปมเงิน 1.9 ล้าน เตรียมตั้งข้อหาสมคบกันฟอกเงินกับสามี “เบนซ์ เรซซิ่ง” เผยตอนนี้ใจยังสู้ ทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่
จากกรณีที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ออกหมายเรียกดาราสาว “แพท-ณปภา ตันตระกูล” เมื่อวานที่ผ่านมา (11 พ.ค.) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐานฟอกเงินและสมคบเพื่อการฟอกเงิน ซึ่งมีหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการครอบครองเงินจาก “เบนซ์ เรซซิ่ง” หรือ เบนซ์-อัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช ผู้เป็นสามี แต่สาวแพทไม่ได้เดินทางมาตามนัด เจ้าหน้าที่จึงออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ในวันที่ 15 พ.ค. เวลา 09.00 น. ขณะที่ทนายของนางเอกสาวได้เปิดเผยว่า เพิ่งทราบว่าได้รับหมายเรียกเมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค. และได้ส่งหนังสือขอเลื่อนพบเจ้าหน้าที่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด “แพท” ก็ได้ออกมาเปิดใจแบบเต็มๆ เป็นครั้งแรกผ่านทางรายการ “รีวิวบันเทิง” ทางช่อง 3 โดยระบุว่า “ตอนนี้สภาพจิตใจเข้มแข็ง มีหน้าที่หลายอย่างที่รับผิดชอบไม่ใช่เพียงเรื่องเดียวที่ทำให้อ่อนแอลง ยิ่งทำให้แพทต้องสู้ๆ ไฟท์ให้มากขึ้น ตอนนี้แพทไปมาสองบ้าน บ้านคุณสามีกับบ้านแพทเองที่มีแม่และน้องอยู่ด้วยกัน ยังคุยกับแม่เหมือนเดิม แต่การดูแลต้องใส่ใจมากขึ้น ก่อนหน้านี้แม่เข้าโรงพยาบาล แม่มีอาการชักด้วยอาการของโรคที่ต้องระวังมากขึ้น ต้องให้หมอช่วยดู หมอบอกว่าแม่อาจจะเป็นโรคสมองที่แม่มีอยู่แล้ว เราต้องใส่ใจมากขึ้น ถ้าตัวเราไม่ได้ไปดูแม่ เราก็ไลน์ถามน้องว่าแม่เป็นยังไง ตอนนี้เหมือนเรามีเด็ก 2 คน มีน้องเรซซิ่งแล้ว มีแม่ด้วย แม่ดื้อกว่าอีก”
“ส่วนน้องเรซซิ่งก็ 3 เดือนแล้ว พัฒนาการค่อนข้างเร็ว ตั้งคอเร็ว พูดเร็ว เราก็จะเลี้ยงกัน 3 คนไม่มีพี่เลี้ยง ช่วงเดือนแรกๆคนสำคัญก็คือแม่ ต้องดูแลเขา เราเลยยังไม่หาพี่เลี้ยง พอเราอยู่กับเขาจนชิน เราก็ช่วยกันไปก่อน เบนซ์ทำให้แพทเปลี่ยนความคิด ตอนน้องมาบ้านวันแรก ด้วยความที่เราเกรงใจกลัวเขาทำไม่ได้ เราบอกเราจะเอาลูกไปฝากน้องไหม เขาบอกไม่ต้อง เขาเลี้ยงได้ เวลาอยู่บ้านเขาเหมือนคนสติไม่ดี เวลาเขาอยู่กับลูกที่บ้าน เล่นกับลูก แพทลองปล่อยให้เขาอยู่กับลูกเต็มๆ วันนึง เขาก็สามารถดูแลลูกได้ ปัจจุบันลูกติดคุณพ่อมากกว่า”
ทั้งนี้ พิธีกรได้ถามว่า แพทใช้ชีวิตอย่างไรในสภาวะจิตใจที่ต้องเจอข่าวหนักแบบนี้ โดยแพทกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ตอนนี้ต้องใจแข็งและสู้กับมันด้วย เรามีหน้าที่หลายอย่างที่ต้องทำ ตอนนี้เราอยู่ตรงนี้ก็ได้ ก็ทำหน้าที่เราให้เต็มที่ก่อน แล้วมันจะดีขึ้นเอง”