เมื่อวันจันทร์ที่ 29 เมษายน 2567 ร้อยตำรวจเอก ชาญณรงค์ ทับสาร รองผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 56/2566 กล่าวว่า ตนได้ลงนามหมายเรียกผู้ต้องหา จำนวน 5 ราย มารับทราบข้อกล่าวหา วันที่ 7–8 พฤษภาคม 2567 นี้ ประกอบด้วย
1.นายภาณพ (สงวนนามสกุล) เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ที่เพิ่งเกษียณอายุราชการ กรณี เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือ หน้าที่
ใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามมาตรา 172 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561
2.นายนิธินัย (สงวนนามสกุล) กรณี สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ฯ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
3.นายสำเริง (สงวนนามสกุล) กรณี สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ฯ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
4.นายยุทธนา (สงวนนามสกุล) กรณี สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ฯ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
5.นายจอม (สงวนนามสกุล) กรณี สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ฯ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
กรณี ที่มีสมาชิกสหกรณ์ชุมนุมสวนปาล์ม และประชาชนสงสัยว่าเหตุใดภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 56/2566 ได้ยึด อายัดโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มคลองท่อม อันเป็นทรัพย์สินของสหกรณ์ชุมนุมสวนปาล์มกระบี่แล้ว แต่ยังปล่อยให้บริษัทกระบี่วิเศษฯ ซื้อผลปาล์มสดมาสกัดน้ำมันปาล์มอีก ขอแจ้งไปยังประชาชนทั่วไป และสมาชิกสหกรณ์ชุมนุมสวนปาล์มน้ำมันกระบี่ และผู้มีส่วนได้เสียให้ทราบว่าจากการตรวจสอบพบว่าบริษัท กระบี่วิเศษฯ ที่ครอบครองทรัพย์ก่อนหน้านี้ได้ยื่นเอกสารการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันปาล์มกับบุคคลที่ 3 ซึ่งอาจจะไม่ทราบรายละเอียด คณะพนักงานสอบสวนได้ประชุมร่วมกันกับผู้อำนวยการกองปฏิบัติการพิเศษ และผู้แทนกองกฎหมาย มีมติร่วมกันผ่อนผันให้ บริษัทกระบี่วิเศษฯ นำทรัพย์สินที่ไม่ใช่ของกลางออกจากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มคลองท่อมให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ก่อนเวลา 18.00 น.
“ในประเด็นการดำเนินการกับของกลาง พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้นโยบายว่า ขอให้พนักงานสอบสวนทำความชัดเจนกับทุกประเด็นและสามารถตอบคำถามหลากหลายฝ่ายได้ทุกฝ่ายทุกคนที่มีข้อสงสัย ขณะที่ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาการอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้กำชับว่า ขอให้พนักงานสอบสวนสืบสวนสอบสวนเข้าถึงพยานหลักฐานทุกรูปแบบ เพื่อทำให้ความจริงปรากฏทุกด้าน การที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษนี้จัดให้มีการพบกันหลายฝ่ายทำให้ทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้กระทำความผิด ซึ่งต่อจากนี้จะต้องลงรายละเอียดเกี่ยวกับพยานหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ และจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำความผิด ในแถวสองแถวสามมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป” ร้อยตำรวจเอก ชาญณรงค์ฯ กล่าว
สำหรับคดีการทุจริตชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์มกระบี่ เป็นคดีพิเศษโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการคดีพิเศษ และมีการสืบสวนสอบสวนตั้งแต่คดีพิเศษที่ 215/2565 จนกระทั้งพบการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐคือ พนักงาน (ธ.ก.ส.) คณะพนักงานสอบสวนจึงส่งสำนวนไปยัง (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการ (ป.ป.ช.) มีมติส่งกลับมาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำการสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิดต่อไป โดยมอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอกชาญณรงค์ ทับสาร รองผู้อำนวยการกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 56/2566 และเข้าตรวจสอบของกลางซึ่งเป็นโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มคลองท่อม อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 56/2566 จึงได้นำป้ายของกลางในคดีพิเศษที่ 56/2566 ปิดประกาศที่หน้าทางเข้าโรงงาน เพื่อประกาศให้สาธารณะชนทราบว่าเป็นของกลางในคดีพิเศษ