ตำรวจภูธรอำเภอท่าหลวงลพบุรี ได้ คุมตัวผู้ต้องหาคดีปล้นปั๊มน้ำมัน อำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี
สืบเนื่องมาจาก
จากกรณีที่โลกออนไลน์โพสต์คลิปโจรใช้ปืนจี้เด็กปั๊ม แต่เด็กปั๊มใจกล้าสู้กลับ โจรสู้ไม่ไหวหนีจ้อยนั้น ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 เม.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ปั๊มน้ำมันไผ่สีทอง ต.หัวลำ อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี ปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุในคลิปดังกล่าว
นายสกัด สุวะ อายุ 45 ปี พนักงานปั๊มที่สู้โจร
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา คนร้ายขับรถจักยานยนต์ทำทีเข้ามาเติมน้ำมัน มาเพียงคนเดียว สั่งเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 จำนวน 100บาท ในขณะที่เติมเสร็จแล้ว คิดว่าคนร้ายจะหยิบเงินมาจ่ายแต่กลับกลายเป็นปืน นำขึ้นมาขู่ตนเอง แล้วบอกให้นำเงินออกมาให้ แต่สังเกตรูปร่างของคนร้ายและปืนในมือคนร้าย ประกอบกับเขาและคนร้ายอยู่ไม่ห่างกันมาก คิดว่าคงสู้ได้ จึงพยายามสู้กับคนร้าย และหมา 2 ตัวที่ปั๊มก็คอยเห่าขู่คนร้ายไปด้วย สู้กันจนล้มลุกคลุกคลาน จนทำให้ภรรยาและเพื่อนบ้านได้ยินเสียงจึงวิ่งออกมา ทำให้โจรขึ้นรถจักรยานยนต์หนีไปในที่สุด
ล่าสุด
เมื่อเวลา 08.00 น ในวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจภูธรอำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี นำโดย พ.ต.อ.ปานเทพ ปานะ ดาษ ผกก.สภ.อ.ท่าหลวง ลพบุรี
ชุดการจับกุม
พ.ต.ท.สุทธิเทพ ใจเชื้อ สว.สอ.สส.สภ.อ
ท่าหลวง ร ต.อ.เอกสิทธิ์ คำหอาน รอง สว.สอ.สส.สภ.อ.ท่าหลวง และ
ร.ต.อ.โกศล พุ่มทอง รอง. สว.สอ.สส.สภ.อ.ท่าหลวง ร.ต.ต.ชาตรี แป้นชัยมอง สวย.สอ.สส.สภ.อ.ท่าหลวง
ร.ต.ต.อสุพล รัศดี สว.สอ.สส.สภ.อ.ท่าหลวง
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จับกุมตัวสองผู้ต้องหาคือ นายเชิงชัย ก้องแก้ว หรือ ดุ่ย ตำบลซับตะเคียน อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี
จับกุมได้เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 เมื่อเวลา 11:00 น ใช้การสืบสวนสอบสวนเป็นเวลา 23 วัน โดยจับได้ที่จังหวัดสมุทรสาคร
ไอ้ดุ่ย นายเชิงชัย ก้องแก้ว ได้ก่อเหตุปล้นปั๊มน้ำมันนายสกัด สุวะ อายุ 45 ปี พนักงานปั๊มที่สู้โจร กล่าวว่าเปิดใจ ที่รู้ข่าวว่าจับผู้ต้องหาได้แล้วต่ออีกว่า
ดีใจครับที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรอำเภอท่าหลวง ได้จับผู้ต้องหาหรือผู้ร้ายได้ ทางผมต้องขอบคุณถึงเจ้าหน้าที่ทุกๆนายที่ออกมาจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ขอบคุณมากๆครับ
พ.ต.อ.ปานเทพ ปานะ ดาษ ผกก.สภ.อ.ท่าหลวง ลพบุรี
กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ทั้งที่
ทั้งนี้ก็เป็นเพราะผู้เสียหายได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ จนนำไปสู่การจับกุม เบื้องต้นคนร้ายให้การรับสารภาพและอ้างว่าทำเป็นครั้งแรก แต่เป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ
เพราะในท้องที่ อ.ชัยบาดาล และใกล้เคียงมีคดีในลักษณะเดียวกัน เกิดขึ้นหลายครั้ง ดังนั้นก็ขอให้ผู้เสียหายที่คาดว่าจะถูกคนร้ายกระทำให้มาแจ้งความได้ที่ สภ.อ.ท่าหลวงซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ ตำรวจสภ.อ.ท่าหลวง แจ้งไปยังท้องที่ จังหวัดลพบุรีเพื่อขยายผลทางคดีต่อไป
นันท์นภัส ลิ้มนุสนธิ์
ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวภาคกลาง หนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ