จากกรณีที่โลกออนไลน์แชร์คลิปวีดีโอ ชายอ้างว่าเป็นทหารกรมวัง จำนวน 3 นาย ซึ่งมีอาการมึนเมา กำลังอาละวาดด่าทอพยาบาลในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลศิริราช ซ้ำตบหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูที่นั่งอยู่หน้าห้อง อ้างว่ากู้ภัยมองหน้าแล้วหัวเราะเยาะ สุดท้ายอาสากู้ภัยคู่กรณีได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.บางกอกน้อย เหตุเกิดเมื่อประมาณ 22.00 น.วันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด (27 เม.ย.) จ่าเอกพานิช อายุ 44 ปี รอง ผบ.หมู่ สารวัตร กรมสารวัตรทหารเรือ ซึ่งเป็นผู้ที่ปรากฏอยู่ในคลิป ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมชาย จิรวรรค รอง ผกก.สส.สน.บางกอกน้อย พร้อมเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับเพื่อนได้นั่งดื่มกินกันที่ร้านอาหารย่านโพธิ์สามต้น ถ.อิสระภาพ แต่ได้เกิดอุบัติเหตุรถล้มทับเท้า จนได้รับบาดเจ็บนิ้วนางเท้าด้านขวาเป็นแผลฉกรรจ์ เพื่อนจึงได้พาตนมาส่งที่ห้องอุบัติเหตุ โรงพยาบาลศิริราช โดยพยาบาลได้ทำแผลเบื้องต้น ก่อนจะส่งไปเอ็กซเรย์บาดแผล แล้วให้นั่งรออยู่นาน
ตอนนั้นตนรู้สึกปวดแผลมาก และได้เห็นอาสากู้ภัยฯ ได้พาผู้บาดเจ็บอาการเข้ามาส่งที่โรงพยาบาล โดยพยาบาลได้รีบนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันทีและให้ตนนั่งรออยู่ที่หน้าห้อง โดยที่ตนก็ไม่รู้ว่าจะได้เย็บแผลเมื่อใด ประกอบกับมีอาการมึนเมา จึงเกิด บันดาลโทสะอาละวาดกับพยาบาล โดยกล่าวว่า ตนเป็นทหารกรมวัง เคยมาปฏิบัติภารกิจที่โรงพยาบาลศิริราชอยู่บ่อยครั้ง เมื่อถึงคราวตนเจ็บป่วยทำไมไม่ได้รับการดูแล จังหวะนั้นหันไปเห็นอาสากู้ภัยฯ นั่งคุยหัวเราะกันอยู่ จึงคิดว่าหัวเราะเยาะตน จึงได้เดินเข้าไปตบหน้านายนัทที อาสากู้ภัย 1 ครั้ง จากนั้นจึงเดินทางไปเย็บบาดแผลที่โรงพยาบาลธนบุรี จำนวน 16 เข็ม เพราะทนรอไม่ไหว
อย่างไรก็ตาม ตนไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องราวบายปลายขนาดนี้ ตนขอยอมรับผิดทุกประการ และจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ต้องขอโทษทั้งอาสากู้ภัยและโรงพยาบาลศิริราชด้วย
ด้านนายนัทที อายุ 32 ปี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู คู่กรณีที่ถูกตบหน้า กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้รับผู้บาดเจ็บเป็นชาย จากสาเหตุรถจยย.ล้ม อาการสาหัสหมดสติ จากหน้า สน.บางขุนนนท์ มาส่งที่ห้องอุบัติเหตุ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อมาถึงโรงพยาบาล แพทย์ได้รีบนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อช่วยชีวิตเป็นการด่วน ช่วงนั้นตนพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน จึงนั่งรออุปกรณ์ช่วยเหลือหน้าห้อง
ระหว่างนั้นจ่าเอกพานิช ได้เดินเข้ามาพูดจาหาเรื่องตน พร้อมกับบอกว่า ตนหัวเราะเยาะ แล้วก็ตบเข้าที่แก้มขวาของตน 1 ครั้ง จนหน้าสั่น ตนพยายามอธิบายแต่จ่าเอกพานิช ก็ไม่ฟัง ทำให้ตนต้องรีบไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางกอกน้อย โดยที่เพื่อนได้อัดคลิปไปลงโซเชียลดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ต่อมาตำรวจได้เชิญคู่กรณีมาเจรจากัน ซึ่งจ่าเอกพานิชก็ยอมขอโทษ โดยทั้งคู่ได้จับมือกันเลิกแล้วต่อกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการปรับจ่าเอกพานิช เป็นเงินจำนวน 1,000 บาท ข้อหาทำร้ายร่างกาย ก่อนจะแยกย้ายกันไป ซึ่งทางหน่วยต้นสังกัดจะพิจารณาโทษทางวินัยกับจ่าเอกพานิชอีกครั้ง